‘ศิริราช’ บูมเมดิคอลฮับบางโพ เป้าหมายดึงต่างชาติทั่วโลก

ดึงต่างชาติ-หนุน รพ.เดิม, คาดเสร็จตามแผน-5 ปีกำไร, Medical Hub ต้องบูรณาการ, สังคมสูงวัย โจทย์ใหญ่ไทย, เดินหน้า ศิริราชลอยฟ้า

ภาพประกอบข่าว

“ศิริราช” อัพเดตบิ๊กโปรเจ็กต์ Medical Hub บางโพ 1.7 หมื่นล้าน รออนุมัติ EIA คาดสร้างเสร็จใน 5 ปี ตั้งเป้าดึงต่างชาติใช้บริการ ราคาเทียบเท่าปิยมหาราชการุณย์ ย้ำเงินกำไรหนุน รพ.ศิริราชเดิม ช่วยผู้ป่วยทุกสิทธิการรักษา ชี้สังคมสูงวัยโจทย์ใหญ่ประเทศไทย เผยศิริราชลอยฟ้าล่าช้า หลังรถไฟฟ้าขุดเจอแนวกำแพงเมืองเก่าธนบุรี กรมศิลปากรเร่งเคลียร์เดินหน้าต่อ

ดึงต่างชาติ-หนุน รพ.เดิม, คาดเสร็จตามแผน-5 ปีกำไร, Medical Hub ต้องบูรณาการ, สังคมสูงวัย โจทย์ใหญ่ไทย, เดินหน้า ศิริราชลอยฟ้า

ภาพประกอบข่าว

ศ.นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สถาบันการแพทย์ศิริราชระดับนานาชาติ (บางโพ) ขณะนี้มีความคืบหน้าบ้างแล้ว ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) หากผ่านการพิจารณาอนุมัติแล้วจะเร่งดำเนินการหาผู้รับเหมาเพื่อก่อสร้างต่อไป คาดว่าจะดำเนินการเรื่องแบบให้แล้วเสร็จภายในปี 2568 ส่วนงานก่อสร้างทั้งโครงการจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี 2574

ดึงต่างชาติ-หนุน รพ.เดิม, คาดเสร็จตามแผน-5 ปีกำไร, Medical Hub ต้องบูรณาการ, สังคมสูงวัย โจทย์ใหญ่ไทย, เดินหน้า ศิริราชลอยฟ้า

ภาพประกอบข่าว

โครงการดังกล่าวเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่แห่งใหม่ ตั้งอยู่บนที่ดินบริจาคริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีผู้บริจาคที่ดิน 2 ราย (ไม่ประสงค์ออกนาม) ได้มอบที่ดินให้กับโรงพยาบาลศิริราช เพื่อใช้ประโยชน์ตามที่เห็นสมควร นับเป็นความเชื่อมั่นที่มีต่อโรงพยาบาล และน่ายินดีอย่างยิ่งที่ประชาชนเห็นในสิ่งที่ศิริราชทำมาโดยตลอด และจะทำต่อไปในอนาคต

ด้วยความที่ศิริราชมีความเข้มแข็งและเชี่ยวชาญด้านการให้บริการทางการแพทย์ จึงตั้งใจนำที่ดินผืนนี้ไปสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าต่อประชาชนให้มากที่สุด

โดยเน้นการบริการทางการแพทย์ชั้นสูงระดับเหนือตติยภูมิ สู่การเป็นโรงพยาบาลชั้นนำของประเทศและในระดับนานาชาติ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ (Medical Hub) ของภูมิภาคเอเชีย

ดึงต่างชาติ-หนุน รพ.เดิม

ศ.นพ.อภิชาติ กล่าวว่า การจะเป็น Medical Hub ได้นั้น ประเทศไทยต้องมีความสามารถในการรองรับคนไข้ต่างชาติ ตอนนี้มีคนไข้ต่างชาติที่เป็นผู้ใช้แรงงานได้มารักษาผ่านสิทธิต่าง ๆ จำนวนมาก

อีกส่วน คือชาวต่างชาติที่ตั้งใจเดินทางมารักษาในไทยโดยเฉพาะ ซึ่งมีทั้งสหรัฐอเมริกา ยุโรป และประเทศแถบเอเชีย โดยศิริราชสามารถให้บริการได้ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีโรงพยาบาลรัฐใด ๆ ทำได้

คาดว่า ระยะแรกจะมีผู้ใช้บริการเป็นชาวต่างชาติราว 10-20% พร้อมย้ำว่า สถาบันการแพทย์ศิริราชระดับนานาชาติ (บางโพ) ยังคงเป็นสถานบริการสำหรับประชาชนคนไทยเป็นสำคัญ

“เชื่อว่าอนาคตชาวต่างชาติที่มารับการรักษาจะเข้าใจว่า ที่นี่เป็นโรงพยาบาลของภาครัฐ แม้จะดำเนินงานแบบเอกชน และเข้าใจว่า กำไรที่ได้จากการค่ารักษาพยาบาลจะมีส่วนช่วยเหลือคนไข้อีกจำนวนมาก ที่ผ่านมาโรงพยาบาลศิริราชดูแลคนไข้ทุกภาคส่วน ทุกสิทธิการรักษา และรีเฟอร์คนไข้สิทธิ 30 บาทมากที่สุดแล้วในขณะนี้” ศ.นพ.อภิชาติ กล่าวและว่า

นอกจากให้บริการทางการแพทย์แล้ว สถาบันการแพทย์ศิริราชระดับนานาชาติ จะเป็นสถานที่เรียน วิจัย และฝึกอบรมบุคลากรทางการแพทย์ในอนาคตด้วย

ด้วยชื่อเสียง ความน่าเชื่อถือ และประสบการณ์ของโรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์ ประกอบกับอาจารย์แพทย์ พยาบาล และอุปกรณ์ที่มีมาตรฐาน เชื่อว่าชาวต่างชาติจะมาใช้บริการในโรงพยาบาลแห่งใหม่เป็นจำนวนมาก

ซึ่งค่าบริการจะมีลักษณะเดียวกันกับโรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์ในปัจจุบัน และกำไรทุกบาททุกสตางค์จะย้อนกลับมาช่วยเหลือการดำเนินงานของโรงพยาบาลศิริราชต่อไป

“รายได้และกำไรจากสถาบันการแพทย์ศิริราชระดับนานาชาติ (บางโพ) จะช่วยพัฒนาโรงพยาบาลศิริราช ทุกวันนี้ต้องดูแลรักษาคนไข้ทุกสิทธิการรักษา ซึ่งปี ๆ หนึ่งศิริราชต้องใช้เงินจำนวนมาก ทั้งส่วนของอุปกรณ์ เครื่องมือทางการแพทย์ และยาที่มีราคาแพง”

ปัจจุบันโรงพยาบาลศิริราชมีผู้ป่วยเข้ามาใช้บริการ 1.5 หมื่นคนต่อวัน ส่วนศิริราชปิยมหาราชการุณย์มีผู้ใช้บริการ 2.5 พันคนต่อวัน

เมื่อรวมกับศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก ศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุศิริราช สมุทรสาคร และ SIRIRAJ H SOLUTIONS ไอซีเอส ไลฟ์สไตล์ คอมเพล็กซ์ (ตรงข้ามไอคอนสยาม) ทั้งระบบจะมีผู้ใช้บริการร่วม 2.2 หมื่นคนต่อวัน ถือว่ามากที่สุดแล้วในประเทศไทย

คาดเสร็จตามแผน-5 ปีกำไร

ศ.นพ.อภิชาติ กล่าวว่า จากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณ 16,960.59 ล้านบาท สร้างโครงการดังกล่าวนั้น แบ่งเป็น งบประมาณปี 2569-2574 จำนวน 11,048.33 ล้านบาท คิดเป็น 65% และเงินนอกงบประมาณจากศิริราชเอง 5,912.27 ล้านบาท คิดเป็น 35%

ซึ่งต้องเตรียมความพร้อมด้านบุคลากรทางการแพทย์ไว้รองรับ 3,397 คน โดยทยอยเป็นเฟส ๆ ผ่านการสร้างเครือข่ายพันธมิตรจากโรงพยาบาลต่าง ๆ ในไทย เพื่อให้มีบุคลากรเพียงพอในช่วงเวลาที่กำหนด

สถาบันการแพทย์ศิริราชระดับนานาชาติ (บางโพ) จะเป็นศูนย์บริการทางการแพทย์ขนาดใหญ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีระบบการขนส่งทางเรือ รถไฟฟ้า และอยู่ใกล้อาคารรัฐสภา เชื่อมั่นว่ามาตรฐานของศิริราชจะทำให้ประชาชนและชาวต่างชาติมาใช้บริการ เป็นการกระตุ้นให้เศรษฐกิจในพื้นที่โดยรอบคึกคักขึ้น

คาดว่า จะมีผู้ป่วยนอกปีละไม่น้อยกว่า 650,000 คน ผู้ป่วยในปีละ 20,000 คน เป็นอาคารสูง 19 ชั้น พื้นที่ใช้สอยรวม 1.5 แสนตารางเมตร มีหอผู้ป่วยขนาด 442 เตียง หอผู้ป่วยพิเศษ 352 เตียง หอผู้ป่วยวิกฤต (ICU) 90 เตียง ห้องผ่าตัด 22 ห้อง ที่จอดรถชั้นใต้ดิน 3 ชั้น รองรับได้ 800 คัน

อย่างไรก็ตาม คงต้องใช้เวลาสักระยะที่จะเห็นการเติบโตในเชิงตัวเลขของโครงการใหม่ดังกล่าว หากผลประกอบการเป็นไปตามแผน คาดว่าหลังเปิดให้บริการ 4-5 ปี จะทำกำไรได้

ยกตัวอย่างเมื่อครั้ง รพ.ศิริราชปิยมหาราชการุณย์ เปิดให้บริการได้ 5-6 ปี จึงเริ่มมีกำไรส่งกลับมาช่วยโรงพยาบาลศิริราชในปัจจุบัน จนก้าวสู่ปีที่ 14 แล้ว นับเป็นก้าวกระโดดที่สำคัญมาก ปัจจุบันก็มีคนไข้มารับบริการจำนวนมาก

Medical Hub ต้องบูรณาการ

ศ.นพ.อภิชาติ ให้ความเห็นเกี่ยวกับการผลักดันประเทศไทยให้เป็น Medical Hub ว่า มาตรฐานด้านการแพทย์และการบริการ ประเทศไทยอยู่ในระดับดีมาก และราคาก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดี เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ

นอกจากนี้ ประเทศไทยยังน่าอยู่อาศัย มีความโดดเด่นในเชิงวัฒนธรรม อาหาร และสถานที่ท่องเที่ยว แต่จะทำอย่างไรให้เกิดการบูรณาการร่วมกันทั้งระบบ

คงต้องประชาสัมพันธ์ให้ต่างชาติเชื่อมั่นประเทศไทยมั่นคงและปลอดภัย เชื่อว่า Medical Hub ของไทยจะเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ผ่านการสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้ผู้ที่มาใช้บริการและชาวต่างชาติประทับใจ

สังคมสูงวัย โจทย์ใหญ่ไทย

ศ.นพ.อภิชาติ ย้ำว่า โจทย์ใหญ่ของประเทศไทยวันนี้ คือการเข้าสู่สังคมสูงวัย ทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคสังคมต้องทำงานร่วมกัน จะทำอย่างไรให้ผู้สูงวัยมีสุขภาพดี ซึ่งต้องเริ่มตั้งแต่การใช้ชีวิตก่อนเกษียณ สิ่งนี้ไม่สามารถทำได้ด้วยแพทย์เพียงลำพัง ต้องช่วยกันทั้งสิ่งแวดล้อมรอบตัว บุคลากร และเทคโนโลยี ต้องบูรณาการร่วมกัน

ศิริราชเองให้ความสำคัญเรื่องผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก โดยเปิดศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุศิริราช สมุทรสาคร เพื่อเป็นแม่แบบในการดูแล หลังทำการรักษาแบบฉับพลันแล้ว เมื่อถึงจุดหนึ่งไม่จำเป็นต้องอยู่โรงพยาบาล เพราะโรงพยาบาลต้องใช้สำหรับคนไข้หนัก

เมื่อผ่านช่วงวิกฤตแล้ว ผู้สูงอายุควรทำกายภาพบำบัดหรือการฟื้นฟู ซึ่งไม่ต้องอาศัยแพทย์หรือเครื่องมือที่มีวิทยาการสูง แต่จำเป็นต้องได้รับการดูแลจากคนในครอบครัว การให้ความรู้สมาชิกครอบครัวจึงเป็นเรื่องสำคัญ ต้องให้ความรู้กับสังคมและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

เดินหน้า ศิริราชลอยฟ้า

ส่วนความคืบหน้าโครงการอาคารรักษาพยาบาลและสถานีศิริราช ที่จะสร้างอาคารสูง 15 ชั้น เหนือสถานีจุดเชื่อมรถไฟฟ้า 2 สาย คือสายสีส้มและสีแดงอ่อน ด้วยงบประมาณที่ได้รับการอนุมัติจาก ครม.เมื่อปี 2565 รวม 3,851.27 ล้านบาทนั้น

ศ.นพ.อภิชาติ กล่าวว่า เป็นอีกโปรเจ็กต์ใหญ่ที่ศิริราชกำลังดำเนินการอยู่ แต่ต้องล่าช้าไปช่วงหนึ่ง เพราะระหว่างก่อสร้างขุดไปพบแนวกำแพงเมืองธนบุรีที่สมบูรณ์ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของกรมศิลปากรเข้ามาช่วยดูแลพื้นที่ ซึ่งใกล้เสร็จสิ้นแล้ว คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างต่อได้ปลายปีนี้ หรือต้นปี 2569 จะแล้วเสร็จในปี 2572

โครงการอาคารรักษาพยาบาลและสถานีศิริราช จะขึ้นตรงต่อโรงพยาบาลศิริราช โดยหวังผลให้ประชาชนเดินทางด้วยระบบขนส่งเข้ารับการรักษา การตรวจ การผ่าตัดขนาดเล็ก หรือการมาใช้บริการเพียงวันเดียว

เพื่อลดภาระความแออัดของโรงพยาบาลศิริราช ที่จำเป็นต้องใช้รถเข็น เตียง หรือคนไข้หนัก นับเป็นนวัตกรรมที่สำคัญ เพราะยังไม่เคยมีอาคารสถานพยาบาลบนสถานีรถไฟฟ้ามาก่อน

โครงการนี้อยู่บนพื้นที่ 5 ไร่ มีหอผู้ป่วยใน หอผู้ป่วยหนัก (ICU) ศูนย์ตรวจต่าง ๆ โดยให้บริการเหมือนกับโรงพยาบาลศิริราช รองรับสิทธิการรักษาทั้ง 30 บาท ประกันสังคม และสิทธิข้าราชการ

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่