คุยเรื่องลี้ลับกับ "แม่หมอโอปอ" หมอเหยาทางจิตวิญญาณ พิธีกรรมโบราณในหนังไทย "ท่าแร่"

"ท่าแร่" ภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องใหม่ของผู้กำกับ คุ้ย-ทวีวัฒน์ วันทา ผู้สร้างปรากฏการณ์จักรวาลธี่หยดให้วงการผีไทย กลับมาอีกครั้งผลงานใหม่ที่รวมคอนเซปต์ของสองความเชื่อที่ต่างกันสุดขั้วระหว่าง "ความศรัทธาในศาสนาคริสต์" และ "การบูชาผีในพิธีเหยาภาคอีสาน" เพื่อร่วมมือกันกำจัดสิ่งลี้ลับที่อาละวาดผู้คนในชุมชน

สำหรับพิธีเหยาเป็นความเชื่อพื้นถิ่นในแถบภาคอีสาน โดยทำพิธีผ่าน "หมอเหยา" ผู้เปรียบเสมือนสื่อกลางในการสื่อสารกับผีบรรพบุรุษ ซึ่งจะมีการร่ายรำและกล่าวบทกลอนประกอบดนตรีบรรเลง ถือเป็นพิธีกรรมโบราณที่สืบทอดกันในกลุ่มชาวภูไทจากรุ่นสู่รุ่น ไม่ใช่แค่การรักษาอาการป่วยตามความเชื่อเท่านั้น แต่ยังเป็นการปลอบประโลมทางจิตวิญญาณ และเสริมสิริมงคลให้อีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าบทบาทของหมอเหยาก็จะปรากฏอยู่ในภาพยนตร์ไทยเรื่อง "ท่าแร่" 

นิยามของ "หมอเหยา" ในวัฒนธรรมพื้นถิ่นอีสานคืออะไร, วิธีการสืบทอดของ "หมอเหยา" มีกี่แบบ, แม่หมอโอปอถูกเลือกให้เป็นหมอเหยาได้อย่างไร, ปัจจุบันนี้ พิธีหมอเหยาที่จังหวัดสกลนครยังคงมีอยู่ใช่ไหม, คิดว่าสิ่งที่ยากที่สุดของการเป็นหมอเหยาคืออะไร, อยากให้แม่หมอโอปอเล่าเคส การไปทำพิธีเหยาที่น่ากลัวที่สุดให้ฟังหน่อย, มีเหตุการณ์ไหนบ้างไหมที่รู้สึกเป็นพลังงานสิ่งลี้ลับที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ซึ่งไม่เกี่ยวกับพิธีเหยา, ตอนที่ทีมงานภาพยนตร์ท่าแร่ติดต่อเข้ามา เพื่อให้ช่วยทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่นักแสดง รู้สึกอย่างไรบ้าง, นักแสดงได้ส่งคลิปวิดีโอตอนฟ้อนร่ายรำพิธีเหยามาให้ดูด้วย, มีคำแนะนำข้อไหนที่เตือนให้นักแสดงและทีมงานระมัดระวังเป็นพิเศษไหม, สุดท้ายฝากภาพยนตร์เรื่องท่าแร่หน่อย

ภาพยนตร์เรื่อง ท่าแร่

ไทยรัฐออนไลน์ มีโอกาสพูดคุยกับ "แม่หมอโอปอ" หมอเหยาตัวจริงจากสกลนคร ที่ได้ถ่ายทอดต้นแบบคาแรกเตอร์ให้นักแสดงหนุ่ม มีน-พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร ซึ่งรับบทหมอเหยาในภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องนี้ ชวนทุกคนมาทำความรู้จักหมอเหยา พร้อมเรื่องราวลี้ลับท้าทายความศรัทธา ไม่เชื่ออย่าลบหลู่...

คุยกับ "แม่หมอโอปอ" หมอเหยาสกลนคร เปิดเบื้องหลังความเชื่อลี้ลับในภาพยนตร์ไทยเรื่อง "ท่าแร่"

นิยามของ "หมอเหยา" ในวัฒนธรรมพื้นถิ่นอีสานคืออะไร, วิธีการสืบทอดของ "หมอเหยา" มีกี่แบบ, แม่หมอโอปอถูกเลือกให้เป็นหมอเหยาได้อย่างไร, ปัจจุบันนี้ พิธีหมอเหยาที่จังหวัดสกลนครยังคงมีอยู่ใช่ไหม, คิดว่าสิ่งที่ยากที่สุดของการเป็นหมอเหยาคืออะไร, อยากให้แม่หมอโอปอเล่าเคส การไปทำพิธีเหยาที่น่ากลัวที่สุดให้ฟังหน่อย, มีเหตุการณ์ไหนบ้างไหมที่รู้สึกเป็นพลังงานสิ่งลี้ลับที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ซึ่งไม่เกี่ยวกับพิธีเหยา, ตอนที่ทีมงานภาพยนตร์ท่าแร่ติดต่อเข้ามา เพื่อให้ช่วยทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่นักแสดง รู้สึกอย่างไรบ้าง, นักแสดงได้ส่งคลิปวิดีโอตอนฟ้อนร่ายรำพิธีเหยามาให้ดูด้วย, มีคำแนะนำข้อไหนที่เตือนให้นักแสดงและทีมงานระมัดระวังเป็นพิเศษไหม, สุดท้ายฝากภาพยนตร์เรื่องท่าแร่หน่อย

แม่หมอโอปอ มีประสบการณ์ในการเป็นหมอเหยามาแล้วกว่า 10 ปี และเป็นบุคคลเบื้องหลังที่ถ่ายทอดบทบาทนี้สู่นักแสดงในภาพยนตร์ท่าแร่อย่างสมจริง พร้อมด้วย "ครูคิม-นิติ ไชยวงศ์คต" ผู้ให้คำปรึกษากองถ่ายด้านเครื่องแต่งกาย ภาษา และทำนองเหยา

นิยามของ "หมอเหยา" ในวัฒนธรรมพื้นถิ่นอีสานคืออะไร

แม่หมอโอปอ : หมอเหยาของชาวสกลนคร คือ ปราชญ์คนหนึ่งที่ใช้อำนาจของผีบรรพบุรุษลงมาสื่อสารกับคน เหมือนเป็นสื่อกลางระหว่างผีกับคน และใช้อำนาจของผีในการรักษาเยียวยาจิตใจ หรือการปลอบขวัญกำลังใจรักษาคนในเคสต่างๆ 

ครูคิม : หมอเหยาอยู่ในกลุ่มวัฒนธรรมอีสานเหนือ แต่ภูไทจะค่อนข้างรักษาจารีตแบบดั้งเดิมไว้ ในหนังเรื่องท่าแร่ ก็จะเป็นการนำเสนอเคสของหมอเหยาชาติพันธุ์ผู้ไท ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางระหว่างผีบรรพบุรุษ สมมติมีผีตนหนึ่งมาทำให้ใครสักคนเจ็บป่วย หมอเหยาจะเป็นสื่อกลางในการประนีประนอม โดยใช้ศาสตร์ของเสียงแคนและดนตรีเป็นสื่อกลาง

วิธีการสืบทอดของ "หมอเหยา" มีกี่แบบ

แม่หมอโอปอ : การสืบทอดมีหลายแบบ หนึ่งสืบทอดจากบรรพบุรุษแบบรุ่นสู่รุ่น สองสืบทอดผ่านอาการเจ็บป่วย สามสืบทอดผ่านการถูกเลือก บางทีบรรพบุรุษเขาอาจไม่ได้เป็นหมอเหยา แต่เมื่อมีพลังงานบางอย่างต้องการมาสื่อ หรือจะมาอยู่กับคนๆ นั้น ก็จะทำให้มีอาการเจ็บป่วยก่อน โดยอาจจะมาด้วยโชคชะตาฟ้ากำหนด ผีกำหนด หรือแถนกำหนด

ครูคิม : สรุปก็คือมีทั้งหมด 3 แบบ สืบทอดผ่านสายตระกูล, สืบทอดจากอาการเจ็บป่วย และสืบทอดเพราะคุณถูกเลือกแล้ว แต่คนที่ถูกเลือกส่วนใหญ่ก็จะเลือกมาจากสายตระกูลครับ

นิยามของ "หมอเหยา" ในวัฒนธรรมพื้นถิ่นอีสานคืออะไร, วิธีการสืบทอดของ "หมอเหยา" มีกี่แบบ, แม่หมอโอปอถูกเลือกให้เป็นหมอเหยาได้อย่างไร, ปัจจุบันนี้ พิธีหมอเหยาที่จังหวัดสกลนครยังคงมีอยู่ใช่ไหม, คิดว่าสิ่งที่ยากที่สุดของการเป็นหมอเหยาคืออะไร, อยากให้แม่หมอโอปอเล่าเคส การไปทำพิธีเหยาที่น่ากลัวที่สุดให้ฟังหน่อย, มีเหตุการณ์ไหนบ้างไหมที่รู้สึกเป็นพลังงานสิ่งลี้ลับที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ซึ่งไม่เกี่ยวกับพิธีเหยา, ตอนที่ทีมงานภาพยนตร์ท่าแร่ติดต่อเข้ามา เพื่อให้ช่วยทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่นักแสดง รู้สึกอย่างไรบ้าง, นักแสดงได้ส่งคลิปวิดีโอตอนฟ้อนร่ายรำพิธีเหยามาให้ดูด้วย, มีคำแนะนำข้อไหนที่เตือนให้นักแสดงและทีมงานระมัดระวังเป็นพิเศษไหม, สุดท้ายฝากภาพยนตร์เรื่องท่าแร่หน่อย

"มีน-พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร" นักแสดงผู้รับบทบาทหมอเหยา ในภาพยนตร์เรื่อง ท่าแร่

แม่หมอโอปอถูกเลือกให้เป็นหมอเหยาได้อย่างไร

แม่หมอโอปอ : เริ่มต้นจากมีอาการเจ็บป่วยก่อน อายุประมาณ 5 ขวบ จะเป็นเด็กตัวเหลือง เป็นตุ่มตามร่างกาย ปวดท้อง เจ็บป่วยบ่อย เหมือนมีโรคเข้ามาเรื่อยๆ แม่พาไปรักษาก็ยังไม่หาย แต่ลึกๆ แม่ก็รู้อยู่แล้วว่าถ้าเป็นแบบนี้ ต้องมีเรื่องผีบรรพบุรุษมาเกี่ยวข้อง ทำให้คุณย่าทวดพาไปทำพิธีสื่อว่าหลานฉันเป็นอะไร เลยได้รู้ว่าบรรพบุรุษเป็นคนทำให้เจ็บป่วย ท่านต้องการคนที่จะมาสืบทอด รับขันธ์หรือรับช่วงต่อ แต่แม่ยังไม่อยากให้รับ เพราะยังเป็นเด็กน้อย 

แต่พออายุย่างเข้า 6 ขวบ แม่ของแม่หมอก็เจ็บป่วย รักษาไม่หาย ย่าทวดบอกว่าสาเหตุมาจากผีบรรพบุรุษ แม่เลยทำการขอขมาว่าหากเป็นอำนาจของบรรพบุรุษจริงๆ ที่ทำให้เจ็บป่วย ก็ขอให้หายวันหายคืน แล้วจะรับขันธ์ หากบรรพบุรุษชอบใครให้เลือกเอา ให้สิงสู่คนที่อยากให้สืบทอด 

แปลกมากหลังจากนั้นแม่ก็อาการดีขึ้น ก็เลยไปอัญเชิญครูบาอาจารย์จากอีกหมู่บ้านหนึ่ง ให้มาสื่อว่าจริงไหมที่บรรพบุรุษจะมาอยู่ด้วย มาจากไหน อยู่ที่ไหน ชื่ออะไร และจะเลือกใครสิงสู่ใคร เราจะเรียกทุกคนในวงศ์ตระกูลมารวมกัน แล้วดูว่าบรรพบุรุษจะเลือกใคร ปรากฏว่าเขาต้องการแม่หมอ ในการร่ายรำกลอนรำของเขา แปลความหมายได้ว่า "จะมาอยู่กับเด็กคนนี้ เด็กที่เจ็บป่วย" 

นิยามของ "หมอเหยา" ในวัฒนธรรมพื้นถิ่นอีสานคืออะไร, วิธีการสืบทอดของ "หมอเหยา" มีกี่แบบ, แม่หมอโอปอถูกเลือกให้เป็นหมอเหยาได้อย่างไร, ปัจจุบันนี้ พิธีหมอเหยาที่จังหวัดสกลนครยังคงมีอยู่ใช่ไหม, คิดว่าสิ่งที่ยากที่สุดของการเป็นหมอเหยาคืออะไร, อยากให้แม่หมอโอปอเล่าเคส การไปทำพิธีเหยาที่น่ากลัวที่สุดให้ฟังหน่อย, มีเหตุการณ์ไหนบ้างไหมที่รู้สึกเป็นพลังงานสิ่งลี้ลับที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ซึ่งไม่เกี่ยวกับพิธีเหยา, ตอนที่ทีมงานภาพยนตร์ท่าแร่ติดต่อเข้ามา เพื่อให้ช่วยทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่นักแสดง รู้สึกอย่างไรบ้าง, นักแสดงได้ส่งคลิปวิดีโอตอนฟ้อนร่ายรำพิธีเหยามาให้ดูด้วย, มีคำแนะนำข้อไหนที่เตือนให้นักแสดงและทีมงานระมัดระวังเป็นพิเศษไหม, สุดท้ายฝากภาพยนตร์เรื่องท่าแร่หน่อย

"ครูคิม-นิติ ไชยวงศ์คต" และ "แม่หมอโอปอ" ผู้ให้คำปรึกษาและถ่ายทอดคาแรกเตอร์เกี่ยวกับหมอเหยาให้ภาพยนตร์เรื่อง ท่าแร่ (2025)

หลังจากนั้นแม่ก็เลยให้รับขันธ์ เพราะกลัวลูกจะไม่หาย แล้วอาการเจ็บป่วยอาจลุกลามไปถึงคนอื่นๆ ในครอบครัว ก็จะมีการทำพิธีฟ้อนรับประจำปีหรือเลี้ยงผีหมอเหยาประจำปี พอถึงอายุ 13 ปี แม่สามีของพี่สาวป่วย ต้องการเหยา ก็มาบอกว่า "ให้โอปอไปเหยาแม่พี่ให้หน่อย ไปหาหมอก็ไม่หาย ไม่ดีขึ้น" 

ตอนนั้นแม่หมอก็ตกใจเพราะเป็นเคสแรกที่ต้องไปทำพิธีเหยา ซึ่งต้องไปขออนุญาตครูบาอาจารย์ก่อน แม่ครูบอกว่า "ถึงวันแล้วที่โอปอต้องออกไปรักษาคน" เลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ได้มาทำหน้าที่ตรงนี้ ชาวสกลนครจะเรียกตำแหน่งนี้ว่า "แม่เมืองหมอเหยา" ทำหน้าที่สื่อกับผีและออกไปรักษาคน

ปัจจุบันนี้ พิธีหมอเหยาที่จังหวัดสกลนครยังคงมีอยู่ใช่ไหม

ครูคิม : จริงๆ ในพื้นที่จังหวัดสกลนครและกาฬสินธุ์ยังคงมีพิธีกรรมนี้ให้เห็นเยอะกว่าที่อื่นๆ ทุกวันนี้วัฒนธรรมหมอเหยาเข้มแข็งขึ้น แม่หมอโอปอเองก็ยังรักษาจารีตแบบดั้งเดิม ยังไม่มีการประยุกต์ หรือนำความเชื่ออื่นๆ เข้ามาผสม ยังคงทำตามขนบแบบเดิมครับ

คิดว่าสิ่งที่ยากที่สุดของการเป็นหมอเหยาคืออะไร

แม่หมอโอปอ : การครองตน ไม่ทำผิดจารีต เพราะจะมีข้อต้องห้ามที่ต้องปฏิบัติ เช่น ไม่ให้คนอื่นตบหัว ตีไหล่ ข้ามหัว  ห้ามตัวแม่หมอ ไม่ให้กินสัตว์ต้องห้าม ห้ามกินข้าวงานศพ ถ้าหิวจริงๆ ให้ไปกินบ้านคนอื่น ไม่ให้กินเศษอาหารเหลือของคนอื่น และต้องซื่อสัตย์กับบรรพบุรุษ ถ้าเราทำผิดจารีต ท่านก็จะเตือนก่อน แต่ถ้าบอกแล้วไม่ฟัง ก็จะมีการลงโทษ อาจมีสัญญาณเตือนผ่านความฝัน หรือเกิดลางร้ายต่างๆ

นิยามของ "หมอเหยา" ในวัฒนธรรมพื้นถิ่นอีสานคืออะไร, วิธีการสืบทอดของ "หมอเหยา" มีกี่แบบ, แม่หมอโอปอถูกเลือกให้เป็นหมอเหยาได้อย่างไร, ปัจจุบันนี้ พิธีหมอเหยาที่จังหวัดสกลนครยังคงมีอยู่ใช่ไหม, คิดว่าสิ่งที่ยากที่สุดของการเป็นหมอเหยาคืออะไร, อยากให้แม่หมอโอปอเล่าเคส การไปทำพิธีเหยาที่น่ากลัวที่สุดให้ฟังหน่อย, มีเหตุการณ์ไหนบ้างไหมที่รู้สึกเป็นพลังงานสิ่งลี้ลับที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ซึ่งไม่เกี่ยวกับพิธีเหยา, ตอนที่ทีมงานภาพยนตร์ท่าแร่ติดต่อเข้ามา เพื่อให้ช่วยทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่นักแสดง รู้สึกอย่างไรบ้าง, นักแสดงได้ส่งคลิปวิดีโอตอนฟ้อนร่ายรำพิธีเหยามาให้ดูด้วย, มีคำแนะนำข้อไหนที่เตือนให้นักแสดงและทีมงานระมัดระวังเป็นพิเศษไหม, สุดท้ายฝากภาพยนตร์เรื่องท่าแร่หน่อย

อยากให้แม่หมอโอปอเล่าเคส การไปทำพิธีเหยาที่น่ากลัวที่สุดให้ฟังหน่อย

แม่หมอโอปอ : เคสลี้ลับคือไปเหยาคนที่ไม่เชื่อ เขาไม่เชื่อว่ามีอำนาจสิ่งชั่วร้ายจะมาเอาชีวิต ไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอมให้แม่หมอเข้าไปยุ่ง มาขัดขวางทั้งผีทั้งคน เหมือนเป็นโชคชะตากำหนดไว้แล้วว่า คนนี้ต้องตายภายใน 3 วัน 7 วัน ตอนนั้นแม่หมอเหนื่อยกับการไปอ้อนวอน เพราะเราอ้อนวอนจนสิ่งชั่วร้ายนั้นมาเข้าตัวแม่หมอเอง

ตอนนั้นได้คุณย่าทวดช่วยทำพิธีดึงสติให้กลับมา แล้วท่านก็ร่ายมนตร์คาถาปกป้องหลานตัวเองไว้ก่อน แม่หมอบอกไว้ว่า "เคสนี้รักษาไม่ได้ เพราะอำนาจสิ่งลี้ลับโกรธมาก ต้องการจะเอาชีวิต ให้ระวังไว้ภายใน 3 วัน 7 วัน" แต่หากผ่านช่วงเวลานี้ไป แม่หมอจะกลับมาช่วยรักษาอีกครั้ง ปรากฏว่าพอเข้าวันที่ 6 เขาก็เสียชีวิต ต้นเหตุของเรื่องนี้คือเขาเป็นพรานป่ามือสมัครเล่น ชอบท้าทาย แล้วไปลบหลู่เจ้าป่าเจ้าเขา 

มีเหตุการณ์ไหนบ้างไหมที่รู้สึกเป็นพลังงานสิ่งลี้ลับที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ซึ่งไม่เกี่ยวกับพิธีเหยา

แม่หมอโอปอ : มีครั้งหนึ่งที่ประสบอุบัติเหตุรถชน ขับมอเตอร์ไซค์ไปชนกับอีกคัน คนที่ไปด้วยบาดเจ็บแขนหัก ขาหัก แต่แม่หมอกระเด็นไปลงบนกองฟาง รู้สึกเหมือนมีคนมาอุ้มเราไปวางไว้ตรงนั้น แม่หมอคิดว่าคงเป็นความบังเอิญ แต่ภายหลังมีการสื่อก็รู้ได้ว่าวันนั้นที่เราประสบอุบัติเหตุ เป็นอำนาจของผีบรรพบุรุษและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เรานับถือมาช่วยชีวิตไว้ให้แคล้วคลาดปลอดภัย

ตอนที่ทีมงานภาพยนตร์ท่าแร่ติดต่อเข้ามา เพื่อให้ช่วยทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่นักแสดง รู้สึกอย่างไรบ้าง

แม่หมอโอปอ : ตอนแรกก็กังวลเพราะพูดภาษาไทยกลางไม่ค่อยชัด แต่รู้สึกดีใจมากที่มีคนมองเห็นความสำคัญของประเพณีวัฒนธรรมหมอเหยา ให้แม่หมอได้ทำหน้าที่ในการถ่ายทอดออกไปให้สังคมได้รับรู้ว่าหมอเหยาคืออะไร ทำไมต้องมีการเหยา เรารู้สึกดีใจเพราะหนังเรื่องนี้จะเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงในการเผยแพร่วัฒนธรรมหมอเหยาของชาวสกลนคร

นิยามของ "หมอเหยา" ในวัฒนธรรมพื้นถิ่นอีสานคืออะไร, วิธีการสืบทอดของ "หมอเหยา" มีกี่แบบ, แม่หมอโอปอถูกเลือกให้เป็นหมอเหยาได้อย่างไร, ปัจจุบันนี้ พิธีหมอเหยาที่จังหวัดสกลนครยังคงมีอยู่ใช่ไหม, คิดว่าสิ่งที่ยากที่สุดของการเป็นหมอเหยาคืออะไร, อยากให้แม่หมอโอปอเล่าเคส การไปทำพิธีเหยาที่น่ากลัวที่สุดให้ฟังหน่อย, มีเหตุการณ์ไหนบ้างไหมที่รู้สึกเป็นพลังงานสิ่งลี้ลับที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ซึ่งไม่เกี่ยวกับพิธีเหยา, ตอนที่ทีมงานภาพยนตร์ท่าแร่ติดต่อเข้ามา เพื่อให้ช่วยทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่นักแสดง รู้สึกอย่างไรบ้าง, นักแสดงได้ส่งคลิปวิดีโอตอนฟ้อนร่ายรำพิธีเหยามาให้ดูด้วย, มีคำแนะนำข้อไหนที่เตือนให้นักแสดงและทีมงานระมัดระวังเป็นพิเศษไหม, สุดท้ายฝากภาพยนตร์เรื่องท่าแร่หน่อย

ภาพยนตร์เรื่อง ท่าแร่

นักแสดงได้ส่งคลิปวิดีโอตอนฟ้อนร่ายรำพิธีเหยามาให้ดูด้วย

แม่หมอโอปอ : แม่หมอได้สอนท่าฟ้อนร่ายรำ นักแสดง (มีน-พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร รับบทหมอเหยา) ก็ได้ไปฝึกซ้อม แล้วอัดคลิปวิดีโอส่งมาให้แม่หมอดู เขามีความพยายามและตั้งใจมากๆ

ครูคิม : น้องมีนเก่งมาก เพราะเขาต้องไปฝึกพูดภาษาภูไทด้วย มีแม่หมอโอปอสอนรำ สอนทำพิธีเหยา ส่วนครูคิมก็จะรับผิดชอบในการสอนพูดสำเนียงภูไทของสกลนคร สอนเรื่องการแต่งกาย การแสดงกลอนรำ ซึ่งกลอนในพิธีเหยาเป็นคำปลอบประโลม แสดงความนอบน้อมอ่อนโยน แต่ก็จะมีบางบทที่เข้มขลัง ความขลังของคำศัพท์ก็จะเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย

มีคำแนะนำข้อไหนที่เตือนให้นักแสดงและทีมงานระมัดระวังเป็นพิเศษไหม

แม่หมอโอปอ : ก็มีอยู่นะ จะต้องมีความอ่อนน้อม ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ และต้องมีความตั้งใจในการฝึก แม่หมอได้บอกจารีตและข้อห้ามให้นักแสดงรับรู้ว่าสิ่งไหนทำหรือไม่ควรทำบ้าง

ครูคิม : เราจะกำชับกับทีมงานมากกว่า โดยเฉพาะเรื่องการแต่งกายว่าควรให้ถูกต้องตามจารีตประเพณีไปเลย 

แม่หมอโอปอ : มีเรื่องของเครื่องประกอบด้วย เช่น เครื่องคายของหมอเหยา, หมอแคน, อุปกรณ์ในการเหยา ทั้งดาบ ขันหมาก ขันพลู เงินที่ใส่ในคาย รวมถึงเครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ ให้เป็นลวดลายเฉพาะที่ถูกต้อง เพราะหมอเหยาเป็นประเพณีที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ไม่ใช่แค่ความเชื่อผีบรรพบุรุษ แต่ยังมีการสืบทอดศิลปวัฒนธรรม เครื่องแต่งกาย ผ้านุ่งโบราณ เราก็รักษาและอนุรักษ์ไว้

นิยามของ "หมอเหยา" ในวัฒนธรรมพื้นถิ่นอีสานคืออะไร, วิธีการสืบทอดของ "หมอเหยา" มีกี่แบบ, แม่หมอโอปอถูกเลือกให้เป็นหมอเหยาได้อย่างไร, ปัจจุบันนี้ พิธีหมอเหยาที่จังหวัดสกลนครยังคงมีอยู่ใช่ไหม, คิดว่าสิ่งที่ยากที่สุดของการเป็นหมอเหยาคืออะไร, อยากให้แม่หมอโอปอเล่าเคส การไปทำพิธีเหยาที่น่ากลัวที่สุดให้ฟังหน่อย, มีเหตุการณ์ไหนบ้างไหมที่รู้สึกเป็นพลังงานสิ่งลี้ลับที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ซึ่งไม่เกี่ยวกับพิธีเหยา, ตอนที่ทีมงานภาพยนตร์ท่าแร่ติดต่อเข้ามา เพื่อให้ช่วยทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่นักแสดง รู้สึกอย่างไรบ้าง, นักแสดงได้ส่งคลิปวิดีโอตอนฟ้อนร่ายรำพิธีเหยามาให้ดูด้วย, มีคำแนะนำข้อไหนที่เตือนให้นักแสดงและทีมงานระมัดระวังเป็นพิเศษไหม, สุดท้ายฝากภาพยนตร์เรื่องท่าแร่หน่อย

สุดท้ายฝากภาพยนตร์เรื่องท่าแร่หน่อย

ครูคิม : อยากให้คนไทยได้มาดูอีกหนึ่งความเชื่อ เรื่องพิธีหมอเหยาน่าจะเป็นอีกองค์ประกอบหนึ่งที่ช่วยให้หนังเรื่องท่าแร่นี้มีความกลมกล่อมมากขึ้น จะได้เห็นอีกพิธีกรรมหนึ่งที่เป็นพิธีกรรมลึกลับ ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังได้รับการสืบทอดและมีให้เห็นอยู่

แม่หมอโอปอ : ภาพยนตร์ท่าแร่ก็จะมีเรื่องราวของหลายศาสนาและหลายประเพณีมารวมกัน ต่างคนต่างไม่ขัดแย้งกัน สามารถอยู่ร่วมกันได้ เหมือนมาช่วยรักษา ช่วยกันอนุรักษ์สืบทอดประเพณีดั้งเดิมของชาวสกลนคร

ภาพยนตร์เรื่อง "ท่าแร่" เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป