AP-มิตซูบิชิ เอสเตท 12 ปี พันธมิตรธุรกิจหนึ่งเดียวที่ยาวนานและมั่นคง

บมจ.เอพี ไทยแลนด์-บมจ.มิตซูบิชิ เอสเตท 2 องค์กรชั้นนำไทย-ญี่ปุ่น เดินหน้าความสำเร็จ 12 ปี ความร่วมมือ บทพิสูจน์ “ความไว้ใจ” และ “วิสัยทัศน์” ที่พาให้ก้าวไกลกว่าคำว่า “ร่วมทุน” ถอดรหัสความต่างเพียงหนึ่งเดียวกับบทเรียนธุรกิจที่มากกว่าเม็ดเงินลงทุน แต่คือจิ๊กซอว์ความสำเร็จ สู่การสร้างที่อยู่อาศัยคุณภาพ

นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอพี ไทยแลนด์ หรือ AP Thailand เปิดเผยว่า ในวาระเข้าสู่ปีที่ 12 แห่งความสำเร็จของความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างมิตซูบิชิ เอสเตท และเอพี ไทยแลนด์ว่า ถือเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งสำหรับเอพี ไทยแลนด์

จากจุดเริ่มต้นปี 2527 สู่พันธมิตรที่ยาวนานและมั่นคง

นับจากจุดเริ่มต้นเมื่อปี 2557 ซึ่งในวันนั้นถือเป็นเรื่องที่ท้าทายมากสำหรับเรา สำหรับการริเริ่มจับมือกับพันธมิตรระดับประเทศ แต่ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจที่ทั้งสององค์กรต่างมีวิสัยทัศน์เดียวกัน ในการมองหา “พันธมิตรทางธุรกิจที่แท้จริง”

คนที่พร้อมจะขับเคลื่อนและผลักดันธุรกิจให้เติบโตในระยะยาว มากกว่าการมองหาพาร์ตเนอร์เพื่อสร้างผลตอบแทนระยะสั้น เพราะเราเชื่อว่า หากวิสัยทัศน์และคุณค่าไม่ตรงกัน ต่อให้ดีลธุรกิจนั้นยิ่งใหญ่เพียงใด ก็จะไม่มีทางยั่งยืนได้

ความสำเร็จตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จึงเกิดจากความเข้าใจที่ลึกซึ้งในพันธกิจร่วมกัน นั่นคือ การส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้คน ผ่านการแบ่งปันองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่ต่างคนต่างมี จุดหมายเดียวกันคือการร่วมกันสร้าง “ชีวิตดี ๆ ที่เลือกเองได้” ให้กับคนไทยอย่างแท้จริง

โดยเฉพาะเรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาและยกระดับ AP PRINCIPLES – The Principles of Living Quality ซึ่งเป็นปรัชญาหลักของเอพีในการส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกมิติ

โดยได้นำแรงบันดาลใจจากหลัก Five Eyes ซึ่งเป็น Core Value ในการสร้างสรรค์โครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพของมิตซูบิชิ เอสเตท มาประยุกต์ใช้ เพื่อให้สอดรับกับบริบทของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย และผลักดันการพัฒนาโครงการของเราให้ก้าวสู่มาตรฐานระดับโลกอย่างแท้จริง

“มิตซูบิชิ เอสเตท มีความพิเศษ ไม่เพียงแต่ในแง่ของขนาดบริษัท และประสบการณ์ระดับโลกเท่านั้น แต่ยังมีผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ยาวไกล จุดประกายให้ทีมเอพีเราไม่หยุดนิ่งที่จะยกระดับให้สินค้าและบริการตอบโจทย์ ชีวิตดี ๆ ที่ลูกค้าเลือกเองได้” คำกล่าวของอนุพงษ์ อัศวโภคิน

ทั้งนี้ มีเรื่องราวดี ๆ เกิดขึ้นมากมาย ไม่ใช่แค่ในภาพความสำเร็จทางธุรกิจเพียงเท่านั้น แต่ทั้งหมดคือบทพิสูจน์ของ “ความไว้ใจ” และ “วิสัยทัศน์” ที่พาให้เราทั้งสององค์กร กลายเป็นพันธมิตรทางธุรกิจหนึ่งเดียวที่มั่นคง และร่วมทางกันอย่างยาวนานที่สุดในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ไทย

ซึ่งทั้งหมดนี้จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย หากเรามองความร่วมมือครั้งนี้เป็นเพียงแค่ “การร่วมลงทุน” เพราะสิ่งที่เราทั้งสององค์กรมุ่งมั่นมาโดยตลอด คือการ “ร่วมกันสร้างคุณค่าที่แท้จริง” ตั้งแต่การลงทุนอย่างมีวิสัยทัศน์ การแบ่งปันองค์ความรู้เฉพาะทาง การยกระดับมาตรฐานที่อยู่อาศัย

ไปจนถึงการส่งต่อคุณภาพชีวิตที่ดี และการพัฒนาคนรุ่นใหม่อย่างยั่งยืน ทุกองค์ประกอบเหล่านี้…ต่างต่อกันเป็น “จิ๊กซอว์แห่งความสำเร็จ” ที่เชื่อมโยงอย่างกลมกลืน และมีความหมาย และเรา เอพี ไทยแลนด์ และมิตซูบิชิ เอสเตท ยังคงเดินหน้าสร้างคุณค่าที่จับต้องได้ให้กับชีวิตผู้คน…อย่างยั่งยืนต่อไป

ภาพประกอบข่าว

Five Eyes – Core Value หลักในการพัฒนาคุณภาพชีวิต

นายยูจิ โอกาโมโต กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท (ประเทศไทย) จำกัด ในนามของบริษัทร่วมทุนและกลุ่มบริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มิตซูบิชิ เอสเตท และเอพี ไทยแลนด์ ได้ทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง

เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับเอพี ไทยแลนด์ ซึ่งเป็นบริษัทผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย ที่มีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญ และมีระบบที่ยอดเยี่ยมที่จะพัฒนาบุคลากร คุณภาพ นวัตกรรม และเทคโนโลยีต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง

“ปรัชญาการทำงานของเอพีสอดคล้องกับ Brand Slogan ที่ว่า A Love for People, A Love for City ของ มิตซูบิชิ เอสเตท ซึ่งการผสานความร่วมมือครั้งนี้ เราเชื่อว่าจะนำไปสู่การสร้างคุณค่าใหม่ ๆ ให้กับคนไทย” คำกล่าวจากคุณยูจิ โอกาโมโต ที่ยังคงสานต่อความตั้งใจเดิมจากวันแรกจนถึงปัจจุบัน

ความสำเร็จที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ถือเป็นผลลัพธ์จากเป้าหมายหลักที่เราทั้งสององค์กรเห็นชอบร่วมกันตั้งแต่วันแรก เราได้พัฒนาความเข้าใจวัฒนธรรมองค์กรและปรัชญาองค์กรซึ่งกันและกันอย่างลึกซึ้ง ตลอดจนการสนับสนุนองค์ความรู้ และนวัตกรรมการอยู่อาศัยใหม่ ๆ

โดยเฉพาะแนวคิด Five Eyes ที่ถือเป็น Core Value หลักในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ที่เกิดจากการสั่งสมประสบการณ์ในธุรกิจมายาวนาน ที่เรายินดีส่งต่อองค์ความรู้นี้แก่ทีมงานเอพี ไทยแลนด์ เพื่อนำมาต่อยอดให้ปรัชญาในการส่งมอบคุณภาพของเอพี ไทยแลนด์ ตอบทุกมิติชีวิตคนไทยอย่างรอบด้าน

ซึ่งทั้งหมดนี้คงจะเป็นไปไม่ได้ หากความร่วมมือของเราจบเป็นรายโครงการ

ในมุมมองของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ญี่ปุ่น ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีภาพรวมการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมในเมืองที่ดีอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีปัจจัยที่กระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค

แต่ในทางกลับกันโครงการคอนโดมิเนียมร่วมทุนระหว่าง เอพี ไทยแลนด์ และมิตซูบิชิ เอสเตท ทุกโครงการที่ผ่านมา ล้วนประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าต่อคุณภาพของสินค้า และความเป็นมืออาชีพของทีมงานเอพี ไทยแลนด์

เรามีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่สามารถสร้างคุณูปการให้กับสังคมไทย ผ่านธุรกิจร่วมทุนของเรากับพันธมิตรที่ดีและแข็งแกร่งอย่างเอพี ไทยแลนด์ และจะยังคงจับมือเดินหน้าร่วมกันไปต่อเนื่อง เพื่อมอบคุณค่าในฐานะบริษัทญี่ปุ่นให้กับสังคมไทยต่อไป

รู้จัก มิตซูบิชิ เอสเตท ยักษ์อสังหาฯญี่ปุ่นระดับโลก

หากจะพูดถึงกลุ่มบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของญี่ปุ่นที่มีบทบาทสำคัญในเวทีโลก มิตซูบิชิ เอสเตท คือหนึ่งในชื่อแรก ๆ ที่ถูกพูดถึง ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานเกือบศตวรรษ และในฐานะหนึ่งในบริษัทร่วมของกลุ่มมิตซูบิชิ ความแข็งแกร่งของมิตซูบิชิ เอสเตท ไม่ได้หยุดอยู่แค่บทบาทของผู้ถือครองที่ดินใจกลางโตเกียวเท่านั้น

แต่ยังรวมถึงความเชี่ยวชาญเชิงลึกด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย ที่มีประสบการณ์สั่งสมมากว่า 100 ปีในญี่ปุ่น และยังขยายความเชี่ยวชาญนี้สู่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นในอเมริกา อังกฤษ หรือประเทศในกลุ่มเอเชีย ผ่านเครือข่ายบริษัทลูกที่บริหารงานอย่างเป็นระบบ

ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทมิตซูบิชิ เอสเตท ซึ่งรวมถึงบริษัท Mitsubishi Estate Property Management มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญอย่างลึกซึ้งในด้านการบริหารจัดการโครงการอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะในธุรกิจคอนโดมิเนียม

กลุ่ม Mitsubishi Jisho Community ได้บริหารจัดการยูนิตคอนโดมิเนียมมาแล้วกว่า 300,000 ยูนิต พร้อมนำความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมมายาวนาน มาพัฒนาเป็นบริการหลากหลายรูปแบบ ครอบคลุมทั้งด้านความปลอดภัย และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ

ทั้งนี้ รายได้ประจำปีนับตั้งแต่ 1 เมษายน 2567-31 มีนาคม 2568 กลุ่มมิตซูบิชิ เอสเตท สามารถสร้างรายได้จากทุกภาคส่วน รวมถึงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทั้งที่ญี่ปุ่นและการลงทุนทั่วโลกได้มากถึง 1,579 พันล้านเยน สะท้อนได้ถึงความแข็งแกร่งในมิติของการพัฒนาที่อยู่อาศัยคุณภาพระดับโลก

ภาพประกอบข่าว

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่