พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ย้ำบทบาท Property Management หลังแผ่นดินไหว
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เปิดเผยความคืบหน้าการบริหารจัดการภายหลังเหตุแผ่นดินไหว ดูแลอาคารและที่อยู่อาศัย 400 โครงการ กว่า 100,000 ครอบครัว พร้อมตอกย้ำบทบาทของธุรกิจบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ (Property Management) ในการเป็น “แนวหลัง” ที่แข็งแกร่งของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ไทย
นางสุวรรณี มหณรงค์ชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ภายหลังเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญได้เข้าตรวจสอบความมั่นคงของโครงสร้างในทุกโครงการอย่างเร่งด่วน
โดยผลการตรวจสอบยืนยันว่าอาคารทุกแห่งมีความมั่นคงปลอดภัย และได้รับการรับรองจากกรุงเทพมหานครครบถ้วน 100% ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2568
ทั้งนี้ มีการเร่งซ่อมลิฟต์-ระบบส่วนกลาง-ห้องชุดลูกบ้าน พร้อมประสานเคลมประกันทุกขั้นตอน เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ระบบลิฟต์โดยสาร เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องได้รับการซ่อมแซมเร่งด่วน เพื่อให้ลูกบ้านสามารถกลับเข้าใช้งานในโครงการได้โดยสะดวกและปลอดภัย
โดยพลัสฯ จัดการให้มีลิฟต์โดยสารใช้งานได้อย่างน้อย 1 ตัวในทุกโครงการ ภายใน 48 ชั่วโมงหลังแผ่นดินไหว ปัจจุบันสถานะซ่อมแซมลิฟต์โดยสารดำเนินการไปแล้วเกิน 80%
โดยคาดว่าจะซ่อมแซมเสร็จสิ้นทั้งหมดภายในเดือนกรกฎาคม 2568 เนื่องจากมีส่วนที่ต้องสั่งซื้ออะไหล่จากต่างประเทศ และอะไหล่บางส่วนจำเป็นต้องสั่งผลิตใหม่ เพราะไม่มีจำหน่ายในท้องตลาด
ขณะที่งานระบบและพื้นที่ส่วนกลาง อาทิ ระบบไฟฟ้า สระว่ายน้ำ และงานสถาปัตยกรรมส่วนกลาง จุดที่เสียหายมีการซ่อมแซมแล้วเสร็จบางส่วน ส่วนที่เหลืออยู่ในขั้นตอนประเมินราคาซ่อมแซมและอนุมัติวงเงินประกันภัย โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2568 จากนั้นจึงเข้าสู่กระบวนการซ่อมแซมต่อไป
ในส่วนของความเสียหายภายในห้องชุดลูกบ้าน จะมีขั้นตอนในการเคลมประกันและการซ่อมแซมในส่วนที่เสียหายภายใน โดยพลัสฯ ได้มีการติดตามลูกบ้านทุกห้องที่ได้รับผลกระทบ เพื่อนัดหมายเข้าตรวจห้องพร้อมยื่นเอกสารการเคลมประกัน เพื่อให้ลูกบ้านดำเนินการซ่อมแซมในลำดับถัดไป
โดยมีการติดตามอย่างต่อเนื่องจนจบกระบวนการ ทั้งนี้การอนุมัติจากบริษัทประกันขึ้นอยู่กับความถูกต้องและครบถ้วนของเอกสารประกอบการพิจารณาเคลมประกันภัยภายในห้องชุด
“พลัสฯ ยืนยันว่าเราพร้อมช่วยเหลือและเคียงข้างลูกบ้านจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้นครบถ้วนโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”
เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นบทพิสูจน์สำคัญของ DNA การให้บริการของพลัสฯ ที่ยึดมั่นในแนวคิด Customer Centric หรือการใส่ใจและดูแลลูกค้าเป็นลำดับแรก โดยเราให้ความสำคัญสูงสุดกับ “ความปลอดภัย” และ “การบริหารความคาดหวังของลูกค้า”
“เรายังมุ่งมั่นให้บริการเหนือความคาดหวังของลูกค้า สะท้อนผ่านการลงมือปฏิบัติจริงของทีมหน้างาน เช่น การช่วยเหลือผู้สูงอายุอพยพจากอาคารชั้น 30 จัดเตรียมน้ำดื่มสำหรับผู้อพยพ การปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้กับลูกบ้านที่ได้รับบาดเจ็บ ทั้งหมดนี้ล้วนสะท้อนหัวใจของการบริการที่พลัสฯ ยึดถือมาโดยตลอด
สำหรับทิศทาง “Property Management” หลังจากนี้ นางสุวรรณีระบุว่า เหตุการณ์ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า “บริการหลังการขาย” โดยเฉพาะในภาวะวิกฤต จะกลายเป็นแต้มต่อที่สำคัญในตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยคาดว่าแนวโน้มของธุรกิจ Property Management จะมุ่งไปในทิศทางต่อไปนี้
ภาพประกอบข่าว
ภาพประกอบข่าว
1.”การวางแผนรับมือเหตุการณ์ฉุกเฉินแบบรอบด้าน” ในอนาคต “แผนฉุกเฉิน” จะต้องมีความละเอียดรอบคอบมากยิ่งขึ้น รองรับสถานการณ์ที่หลากหลาย ไม่ใช่แค่เหตุแผ่นดินไหว แต่รวมถึงการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินรูปแบบอื่น ๆ เช่น น้ำท่วม พายุ โรคระบาด เหตุการณ์จลาจล เป็นต้น
2.การจัดให้มีการอบรมที่ต่อเนื่องทั้งกับพนักงานและลูกค้า โดยการจัดอบรม แม้เกี่ยวกับเรื่องเล็กน้อยที่เราอาจคิดว่าทุกคนรู้อยู่แล้ว ก็ควรถูกเอามาเทรนนิ่งกันให้มากขึ้น เช่น เมื่อเกิดเหตุแผ่นดินไหวให้ออกห่างจากหน้าต่างและไม่ใช้ลิฟต์ การอพยพต้องอยู่ให้ห่างจากตัวอาคารเท่าความสูงของอาคาร เพื่อเป็นการทบทวน เมื่อเกิดเหตุการณ์จริงจะได้สามารถรับมือได้ทั้งพนักงานและลูกบ้าน
3.การมี Data Center และฐานข้อมูลกลุ่มเปราะบาง เหตุการณ์ฉุกเฉินต้องการความแม่นยำและเร็วในการตัดสินใจ ฐานข้อมูลลูกบ้าน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง หรือเด็กเล็ก เป็นสิ่งที่ทุกโครงการควรมี เพื่อที่สามารถเข้าช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที
4.การใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความปลอดภัย โดยพลัสฯ มีการใช้เทคโนโลยีของ LIV-24 ในหลายโครงการที่ดูแล ซึ่งเป็นการนำ AI มาใช้เพื่อความปลอดภัยในที่อยู่อาศัย ระบบสามารถประมวลผลจากข้อมูลแบบ real-time ทำให้สามารถรู้ได้ว่าระบบอะไรบ้างที่ใช้งานได้หรือได้รับผลกระทบ
อาทิ ระบบลิฟต์ ไฟฟ้า ดับเพลิง สามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อวางแผนบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ จุดเน้นย้ำก็คือ Property Management ไม่ใช่แค่การดูแลความเรียบร้อยของอาคาร แต่เป็นแนวหลังที่แข็งแกร่งในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย โดยเฉพาะในยามวิกฤต และเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยที่ผู้บริโภคยุคใหม่จะใช้ในการตัดสินใจซื้อโครงการที่อยู่อาศัย
โดยพลัสฯ ยืนยันเดินหน้าขับเคลื่อนมาตรฐานใหม่ของธุรกิจบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ ที่สามารถตอบสนองทั้งยามปกติและสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อให้ลูกบ้านมั่นใจได้ว่ามีมืออาชีพคอยดูแลอยู่เคียงข้างเสมอ
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่