สถาปัตย์ จุฬาฯ อบรมปีที่ 2 ‘World Class Destination Development’

จุฬาฯ ผนึกกำลังยักษ์ธุรกิจ “สยามพิวรรธน์-AWC-MQDC-ศุภาลัย” เปิดหลักสูตรอบรม “World Class Destination Development” ผลักดันประเทศไทยสู่เวทีโลก เปิดเรียน 8 วัน 64 ชั่วโมง ระหว่าง 19 กรกฎาคม-30 สิงหาคม 2568 ค่าเรียน 49,500 บาท รับจำนวนจำกัด 50 คนเท่านั้น เปิดรับสมัครถึง 30 มิถุนายนนี้

ดร.ทรรศวรรณ ปรีดาวิภาต ผู้อำนวยการศูนย์ออกแบบเพื่อสังคม (CU D4S) คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาฯ จับมือพันธมิตรภาคเอกชนระดับประเทศ เปิดตัวหลักสูตรอบรมระยะสั้น World Class Destination Development ปีที่ 2

เพื่อเป็นเวทีแห่งการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างภาคการศึกษาและภาคธุรกิจ โดยพันธมิตรภาคเอกชน ประกอบด้วย บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด และสยามพิวรรธน์ อคาเดมี (Siam Piwat Academy), บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC

บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC), และ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบการชั้นนำที่ลงทุนครอบคลุมโครงการด้านการบริการและการท่องเที่ยว โครงการที่พักอาศัยระดับพรีเมียม ศูนย์การค้าและพื้นที่ค้าปลีกเชิงประสบการณ์ ตลอดจนโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่

เจ้าภาพโดย “CU D4S-ศูนย์ออกแบบเพื่อสังคม จุฬาฯ”

โดยหลักสูตรนี้มุ่งหวังสร้างผลกระทบเชิงบวกอย่างเป็นระบบ ทั้งต่อเศรษฐกิจของเมือง คุณภาพชีวิตของผู้คน และความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมในระยะยาว รวมทั้งผลักดันส่งเสริมการพัฒนาทักษะและศักยภาพบุคลากรในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ และยกระดับความสามารถของคนไทยให้พร้อมแข่งขันบนเวทีโลก

ผ่านการเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญชั้นนำจากไทยและต่างประเทศ พร้อมกิจกรรมศึกษาดูงานกรณีศึกษาระดับโลก ณ สถานที่จริง ในระหว่างวันที่ 19 กรกฎาคม-30 สิงหาคม 2568 จัดกิจกรรมโดยศูนย์ออกแบบเพื่อสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CU D4S)

สำหรับการจัดหลักสูตรในครั้งนี้ เป็นการต่อยอดความสำเร็จจากโครงการอบรม “World Class Shopping Mall Ecosystem Development: Managing Urban and Facility for Sustainable Society of the Future ในปี 2567” ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้เข้าร่วมอบรมทั้งจากภาคเอกชน ภาครัฐ และภาคการศึกษา

โดยเฉพาะในด้านความเชื่อมโยงแนวคิดเชิงทฤษฎีกับกรณีศึกษาจริงอย่างมีประสิทธิภาพ ความสำเร็จของโครงการสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของสังคมในการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้เกิดการขยายขอบเขตของการเรียนรู้สู่ระดับที่กว้างและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

“หลักสูตรอบรม World Class Destination Development ปีนี้ จุดมุ่งหมายเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในการยกระดับผู้ประกอบการไทย ก้าวสู่การเป็นผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก” ดร.ทรรศวรรณกล่าว

สร้างพื้นที่แห่งการเรียนรู้ที่มีชีวิต (Living Learning Platform)

ผศ.สรายุทธ ทรัพย์สุข คณบดี คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า คณะสถาปัตยฯ มุ่งมั่นที่จะเป็น ‘จุดเชื่อมต่อแห่งองค์ความรู้’ (Knowledge Connector) ระหว่างภาคการศึกษา ภาคธุรกิจ และสังคม เพื่อร่วมกันออกแบบอนาคตที่ยั่งยืน ทั้งในมิติของเมือง เศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิต

โครงการ World Class Destination Development ไม่ได้เป็นเพียงหลักสูตรอบรม แต่คือเวทีความร่วมมือที่เปิดโอกาสให้นักคิด นักปฏิบัติ และผู้บริหารในภาคการพัฒนาโครงการได้มาแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ที่ลึกซึ้งและทันสมัย

“เราเชื่อว่า การพัฒนาโครงการในศตวรรษที่ 21 ไม่สามารถขับเคลื่อนด้วยความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพียงอย่างเดียว แต่ต้องอาศัยการบูรณาการข้ามศาสตร์ ความเข้าใจเชิงระบบ และการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างแท้จริง

เราจึงมุ่งสร้างพื้นที่แห่งการเรียนรู้ที่มีชีวิต (Living Learning Platform) ซึ่งไม่เพียงตอบโจทย์การออกแบบและบริหารโครงการระดับโลก แต่ยังสร้างคน สร้างแนวคิด และสร้างอนาคตของเมืองไทยให้สามารถยืนหยัดบนเวทีนานาชาติอย่างสง่างามและยั่งยืน”

สัมผัสเบื้องหลัง “สยามพารากอน” The Pride of Bangkok

นายณัฐวุฒิ เกียรติไชยากร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานทรัพยากรบุคคล บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า กลุ่มสยามพิวรรธน์ ถือเป็นองค์กรแรกที่ได้ร่วมมือพัฒนาหลักสูตรกับทางคณะสถาปัตยฯ จุฬาฯ มาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2

โดยปี 2567 ที่ผ่านมาได้รับผลตอบรับอย่างดียิ่ง และประสบความสำเร็จอย่างมาก ทุกโครงการของสยามพิวรรธน์ได้ถูกพัฒนาด้วยวิสัยทัศน์ที่ล้ำสมัย นำเสนอคอนเซปต์และประสบการณ์แปลกใหม่ จนกลายเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของประเทศที่มีผู้มาเยี่ยมเยือนกว่า 100 ล้านคนต่อปี

ด้วยองค์ความรู้และประสบการณ์ที่ครอบคลุมทุกมิติ สยามพิวรรธน์จึงพร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะและศักยภาพของบุคลากรในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ ตอกย้ำบทบาทการเป็นแพลตฟอร์มแห่งโอกาส (Opportunity Platform)  เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของทุกภาคส่วน

ดำเนินการภายใต้โครงการสยามพิวรรธน์ อคาเดมี (SIAM PIWAT Academy)  สถาบันการเรียนรู้และการบริหารจัดการที่นำองค์ความรู้ด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีก แลกเปลี่ยนกับภาคการศึกษาไทย

ทั้งนี้ สยามพิวรรธน์ปีนี้ครบรอบ 66 ปี โครงการสยามเซนเตอร์มีอายุเกิน 50 ปีด้วยซ้ำ ทำไมเหนือกาลเวลา ซึ่งเรามีสยามดิสคัฟเวอรี่ สยามเซ็นเตอร์ สยามพารากอน มัดรวมกันเรียกว่า One Siam ความสำเร็จเริ่มตั้งแต่เราดีไซน์คัมตอมเมอร์เอ็กซ์พีเรียนซ์ โดยสยามพารากอนเป็น Top of Mind ที่ 1 ในใจคนโลก

เป็นเพราะ Behind the scene เริ่มต้นที่การออกแบบ journey ลูกค้าทำอย่างไร และเผชิญความท้าทายจากยุคเทคโนโลยีดิสรัปชัน มีคู่แข่งจากออนไลน์ช้อปปิ้ง อีคอมเมิร์ส เราปรับจุดมุ่งหมายไม่ได้เน้นคนมาเดินซื้อของ แต่ตั้งใจมาเพื่อเดินเที่ยว มีใจอยากรู้เทรนด์อะไรใหม่ๆ ตลอดเวลา การช้อปปิ้งเป็นปลายทาง

ทั้งหมดนี้เป็นที่มาของปริมาณผู้เข้าใช้บริการในศูนย์การค้าของเรามากกว่าวันละ 1 แสนคน และแน่นอนว่าเมื่อตั้งใจมาดูเทรนด์ใหม่ๆ ก็จะมีการช้อปปิ้ง มาเดินซื้อของ ทำให้ผู้เช่าในศูนย์การค้าเติบโตต่อไป

“สยามพารากอนมีชื่อเล่นว่า The Pride of Bangkok มาที่นี่ต้องตื่นเต้น ได้รับแรงบันดาลใจ เห็นสิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา ไอคอนสยามก็เป็นอันดับหนึ่งที่ได้รับการยอมรับในฐานะเวิลด์คลาสเดสติเนชั่น ถูกโหวตอยู่อันดับต้นๆ ของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่ได้มาเยือน

ไฮไลต์เคานต์ดาวน์ถือเป็นกิจกรรมไอคอนิกของเรา ภาพจะต้องไปอยู่ในการนำเสนอข่าวของ CNN ให้ได้ เบื้องหลังเพราะเราต้องการให้ไทยติดอยู่เป็นหนึ่งอีเวนต์ของเวทีโลก ฉะนั้น หลักสูตรนี้ถ้าได้เข้ามาเรียนต้องบอกว่าเกินคุ้ม เพราะเราต้องการให้วงการอสังหาริมทรัพย์ไทยเติบโตระดับโลกไปด้วยกัน”

สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Live long learning)

ดร.สิทธิพร อิสระศักดิ์ ผู้อำนวยการหลักสูตรโครงการ World Class Destination Development กล่าวว่า ไฮไลต์การเรียนรู้ผ่านสถานที่จริงจาก 5 โครงการชั้นนำ ทำให้หลักสูตรนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Live long learning)

ซึ่งเป็นหนึ่งในวิสัยทัศน์และพัทธกิจสำคัญของจุฬาฯ โดยอาศัยกระบวนการสร้างคุณค่าร่วมกัน (Value co-creation) ระหว่างภาควิชาการและภาควิชาชีพที่หลายหลาย ถ่ายทอดองค์ความรู้ข้ามสหสาขาวิชา (Cross-disciplinary collaboration) สู่การพัฒนาทักษะแก่หลากหลายสายงานวิชาชีพ

ยกระดับองค์ความรู้เชิงวิชาการ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กร เพื่อสร้างคุณค่าสู่พัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนของประเทศไทยในอนาคต

สำหรับโครงสร้างเนื้อหาสาระของหลักสูตรจะช่วยให้ผู้อบรมเข้าใจถึง แนวการออกแบบธุรกิจ การกำหนดทิศทางและแนวทางการดำเนินธุรกิจ การกำหนดรายละเอียดการออกแบบโครงการ การบริหารโครงการเชิงกลยุทธ์ แนวคิดการจัดการโครงการ

 

การบริหารทรัพยากรกายภาพ จากการเรียนรู้เชิงลึกจากศึกษาดูงานจริง (Site visiting) จากกรณีศึกษาชั้นนำที่หลากหลายประเภทประโยชน์ใช้สอยทั้ง ศูนย์การค้า สำนักงาน ที่พักอาศัย โรงแรม และโครงการ Mixed-use ที่เป็นโครงการระดับ Mega project

และการเรียนรู้ผ่านการอบรมเชิงปฏิบัติงาน (Project based leaning) จากสถานการณ์และประเด็นปัญหาจริงในแต่ละช่วงของการพัฒนาโครงการตลอดอายุ (Project life cycle) จากผู้เข้าร่วมอบรมทุกท่านและร่วมเรียนรู้ผ่านการะบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design thinking) เพื่อแก้ปัญหาสร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพ

“หลักสูตรนี้เหมาะกับบุคลากรจากหลายอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาและการบริหารโครงการสถาปัตยกรรม การดำเนินธุรกิจเพื่อการท่องเที่ยวและบริการ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในเกณฑ์หรือมีความประสงค์จะการเลื่อนตำแหน่งที่สูงขึ้น ต้องการความรู้ความเข้าใจเชิงบริหารและจัดการแบบองค์รวมมากขึ้น

สายงานที่เหมาะกับหลักสูตร ได้แก่ นักพัฒนาโครงการ นักบริหารโครงการ นักพัฒนาธุรกิจ สถาปนิก ผู้จัดการอาคาร วิศวกรโครงการ และประชาชนทั่วไปที่สนใจ”  ดร.สิทธิพรกล่าว

ดูงานโครงการแฟลกชิป Lifestyle Destination เครือ AWC

นางสาวนาฎฤดี อาจหาญวงศ์ หัวหน้าคณะสายงานทรัพยากรบุคคล บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จํากัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า AWC มุ่งมั่นพัฒนาทรัพยากรบุคคลทั้งในระดับองค์กรและอุตสาหกรรม เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

หลักสูตรนี้มุ่งเน้นการส่งเสริมองค์ความรู้ผ่านประสบการณ์จริง โดยผู้เข้าร่วมจาก โครงการจะมีโอกาสเรียนรู้โมเดล AWC’s Lifestyle Destination ผ่านโครงการระดับแฟลกชิปที่กำลังพัฒนาอย่าง The Aquatique พัทยา ที่ผสานการท่องเที่ยว โรงแรม การค้าปลีก และความบันเทิงเข้าด้วยกัน

เพื่อเป็น Destination รวมประสบการณ์หลากหลายที่พัทยา รวมทั้งการได้ประสบการณ์ตรงจากการศึกษาดูงานที่โรงแรม มีเลีย พัทยา โฮเต็ล ได้ดูงาน Behind the scene มิติต่างๆ ทั้งการออกแบบ การดำเนินงาน การบริการ และ การเชื่อมโยงกับบริบทของเมืองอย่างยั่งยืน

อันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการเสริมสร้างขีดความสามารถของ บุคลากรในอุตสาหกรรมไทยให้พร้อมแข่งขันบนเวทีโลกอย่างมีคุณภาพ

“AWC เราใหม่ในหลักสูตร แตไม่ใหม่ในวงการ ทุกอย่างที่เราทำระดับเวิลด์คลาส เราทำฮอสพิทาลิตี้ มีประสบการณ์พัฒนาโครงการมิกซ์ยูส ยกตัวอย่าง ที่พัทยาเรามีธุรกิจหลากหลาก และมีแฟลกชิปโปรเจ็กต์ อควาทีก ลงทุนเยอะมากๆ 30,000 ล้านบาท บนพื้นที่ขนาดใหญ่ 27 ไร่ เฉพาะโรงแรมลงทุน 2,000 ล้านบาท

ความตั้งใจของ AWC เมืองพัทยาเป็นเวิลด์คลาสเดสติเนชันด้านการท่องเที่ยวอยู่แล้ว สิ่งที่บริษัททำต้องการจะสร้างโปรเจ็กต์ที่เป็นแมกเน็ตให้กับเมืองเพิ่มขึ้น โครงการมีพื้นที่ 200,000 กว่าตารางเมตร มี 3 โรงแรม มีสวนน้ำขนาดใหญ่มาก”

ในส่วนโรงแรมเมเลีย เป็นเชนโรงแรมจากประเทศสเปน สิ่งที่น่าสนใจคือบีชคลับที่สวยที่สุดของเมเลีย มีโซนรูฟท็อปเอ็กพีเรียนซ์ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ครบทุกมิติทั้งการทำงาน ท่องเที่ยว และพักผ่อน

เจ้าภาพโดย “CU D4S-ศูนย์ออกแบบเพื่อสังคม จุฬาฯ”, สร้างพื้นที่แห่งการเรียนรู้ที่มีชีวิต (Living Learning Platform), สัมผัสเบื้องหลัง “สยามพารากอน” The Pride of Bangkok, สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Live long learning), ดูงานโครงการแฟลกชิป Lifestyle Destination เครือ AWC, เปิดโลกป่าในเมืองทำได้จริง “เดอะ ฟอเรสเทียส์ by MQDC”, ”เจ้าสัวประทีป-ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม” แชร์ประสบการณ์ 36 ปีศุภาลัย, อบรม 8 วัน 64 ชั่วโมง ปั้นนักพัฒนาโปรเจ็กต์ระดับโลก

ทั้งนี้ โครงการแฟลกชิปที่เป็นหนึ่งในไฮไลต์ของ AWC ในกรุงเทพฯ คือ เอเชียทีค กำลังสร้างแม็กเน็ตแห่งใหม่ โดยมีจูราสสิคเวิลด์ ร่วมมือกับยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ ต้อนรับได้ทั้งนัคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ

“AWC ในฐานะดีเวลอปเปอร์ หนึ่งในจุดมุ่งหมายเราต้องการซัพพอร์ตการทำธุรกิจอย่างยั่งยืนด้วย เพื่อสร้าง Better planet โดยโครงการอควาทีกในพัทยา เรามุ่งมั่นตั้งแต่เริ่มต้นดีไซน์ว่าอาคารจะต้องได้รับการรองรับมาตรฐาน LEED (มาตรฐานกรีนบิลดิ้งจากสหรัฐอเมริกา) เพราะเราอยาก Built Talent ให้กับวงการ”

เปิดโลกป่าในเมืองทำได้จริง “เดอะ ฟอเรสเทียส์ by MQDC”

ดร.จิตพัต ฉอเรืองวิวัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC) บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ เดเวล็อปเม้นท์ คอร์ปอเรชัน จำกัด หรือ MQDC กล่าวว่า ศูนย์ RISC และ MQDC รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็น Partner ของหลักสูตร World Class Destination Development

ในการเป็นพื้นที่ของแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างภาควิชาการและภาคธุรกิจผ่านการศึกษาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ครอบคลุมทั้งด้านที่พักอาศัย พื้นที่เชิงพาณิชย์ การให้บริการ จนถึงการพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสที่เน้นการออกแบบและบริหารจัดการในระดับ ecosystem

สร้างผลกระทบเชิงบวกอย่างเป็นระบบทั้งด้านเศรษฐกิจของเมือง คุณภาพชีวิตของผู้คน  และความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม

ซึ่งสอดคล้องกับการดำเนินงานของศูนย์ RISC ที่มีเป้าหมายในการเป็นผู้นำด้านงานวิจัยและนวัตกรรม โดยเราทำงานร่วมกับองค์กรทั้งภายในและต่างประเทศในการคิดค้นเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ สำหรับนำไปประยุกต์ใช้จริงในโครงการต่าง ๆ ของ MQDC

ที่มีแนวทางอย่างชัดเจนในการพัฒนาโครงการภายใต้พันธกิจ For All Well-Being เพื่อพื้นฟูและรักษาสมดุลของสิ่งแวดล้อม มอบความสุข ตลอดจนส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนให้กับคน สัตว์ ธรรมชาติ และทุกสิ่งบนโลกนี้

“หลักสูตรนี้บรรจุโปรแกรมดูงานเดอะ ฟอเรสเทียส์ by MQDC เป็นแฟลกชิปที่พัฒนาเดอะฟอเรสเทียส์ให้เกิดป่าในเมืองจริงๆ วันนี้เราไม่ได้ทำงานออกแบบหรืออสังหาริมทรัพย์ด้วยวิชาชีพเดียว แต่ผสมผสานหลายองค์ความรู้เพื่อให้เกิดเวิลด์คลาสเดสติเนชัน สร้าง journey สร้างให้คนหลากหลายมีความรู้ความเข้าใจคอนเซ็ปต์เดียวกัน

โดย RISC เราไม่อยากมีแก๊ประหว่างโนว์เลจกับการพัฒนาจริง มีการดึงเน็ตเวิร์คเรื่องๆ ต่างๆ สร้างแวลูเข้าไป ต้องผสมผสานองค์ความรู้สหวิชาชีพ โดย RISC มีนักวิจัยหลากหลาย เช่น การปลูกป่าในเมือง กระบวนการเกิดป่าในเมืองอย่างไร มีตัวชี้วัดถูกต้อง เราซัพพอร์ตให้การพัฒนาเกิดอย่างมีกระบวนการ

ดังนั้น เดอะ ฟอเรสเทียส์จึงเปรียบเสมือนเพลย์กราวด์ให้งานวิจัย และนักอสังหาริมทรัพย์รุ่นใหม่ได้เข้าไปดูงาน ดูคอเซ็ปต์ที่จะทำโครงการเวิลด์คลาสได้ ซึ่งเรามีทาร์เก็ตเป็นโครงการอสังหาฯ คาร์บอนต่ำ

สิ่งที่อยากจะฝากคือ ทาเลนจ์เกิดได้ แต่ยาก วันนี้คนไทยไม่ต้องข้ามน้ำข้ามทะเลไปต่างประเทศ หลักสูตรนี้เจอตัวจริง ของจริง สิ่งที่จะได้มากกว่าในวันทำงาน แค่ได้โอกาสเจอคนเก่งๆ ที่มีโอกาสรับมือการเปลี่นแปลงโลกใบนี้” ดร.จิตพัตกล่าว

”เจ้าสัวประทีป-ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม” แชร์ประสบการณ์ 36 ปีศุภาลัย

นายชัยจักร วทัญญู ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายสร้างสรรค์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ศุภาลัย ในฐานะผู้ประกอบการด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ เล็งเห็นว่าเมืองและชุมชนในอนาคตจำเป็นต้องได้รับการออกแบบและพัฒนาอย่างมีคุณภาพ

บนพื้นฐานของความยั่งยืน ความคิดสร้างสรรค์ และการเข้าใจบริบทของพื้นที่ การสนับสนุนหลักสูตรนี้ถือเป็นการร่วมสร้างบุคลากรคุณภาพ เพื่อสร้างนักออกแบบและนักพัฒนาที่พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยให้สามารถแข่งขันได้ในเวทีระดับโลก

อีกทั้งความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะช่วยจุดประกายแนวคิดใหม่ ๆ ที่สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงของโลกและความต้องการของสังคมยุคใหม่ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการออกแบบเมืองที่ตอบโจทย์ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

การมีส่วนร่วมของบริษัทในโครงการนี้ เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นขององค์กรในการขับเคลื่อนการศึกษา พัฒนาบุคลากร และสนับสนุนการออกแบบเมืองที่ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ทั้งนี้ยังสอดคล้องกับพันธกิจของบริษัทฯ ในการเป็นผู้นำด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน

“ผู้บริหารสูงสุดของศุภาลัย คุณประทีป และคุณไตรเตชะ ตั้งมติธรรม จะมาแชร์ประสบการณ์ด้วยตัวเอง จึงเป็นโอกาสดีมากๆ เพราะจะได้รับฟังจากผู้ที่เคยประสบสำเร็จ และอาจมีข้อผิดพลาด ฟังแล้วไม่จำเป็นต้องเจ็บเอง ได้เรียนรู้วิธีแก้ปัญหาทางธุรกิจ

ซึ่งปีนี้ศุภาลัยครบรอบ 36 ปี ผ่านทุกวิกฤตเศรษฐกิจ ทั้งต้มยำกุ้ง ซับไพรม ฯลฯ การันตีวันนี้เป็นผู้นำอสังหาริมทรัพย์เบอร์ต้นๆ ของไทย โปรแกรมดูงานที่ศุภาลัยไอคอน ครึ่งวันเช้าจะเป็นการเล่าประสบการณ์ ความรู้ดีๆ ในการพัฒนาโครงการทั้งในไทยและออสเตรเลีย

ครึ่งวันบ่ายดูงานโครงการมิกซ์ยูส ศุภาลัย ไอคอน สาทร โครงการแฟลกชิปของศุภาลัย เน้นสัดส่วนที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์ ที่สำคัญในฐานะศิษย์เก่าจุฬาฯ คุณประทีป ตั้งมติธรรม มีปณิธานแรงกล้า มีความยินดีคืนสู่สังคมในแง่การแชร์ประสบการณ์ สิ่งดีต่างๆ ที่สั่งสมมา ผู้เรียนจะได้สัมผัสประสบการณ์มีค่าด้วยตนเอง”

เจ้าภาพโดย “CU D4S-ศูนย์ออกแบบเพื่อสังคม จุฬาฯ”, สร้างพื้นที่แห่งการเรียนรู้ที่มีชีวิต (Living Learning Platform), สัมผัสเบื้องหลัง “สยามพารากอน” The Pride of Bangkok, สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Live long learning), ดูงานโครงการแฟลกชิป Lifestyle Destination เครือ AWC, เปิดโลกป่าในเมืองทำได้จริง “เดอะ ฟอเรสเทียส์ by MQDC”, ”เจ้าสัวประทีป-ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม” แชร์ประสบการณ์ 36 ปีศุภาลัย, อบรม 8 วัน 64 ชั่วโมง ปั้นนักพัฒนาโปรเจ็กต์ระดับโลก

อบรม 8 วัน 64 ชั่วโมง ปั้นนักพัฒนาโปรเจ็กต์ระดับโลก

สำหรับรายละเอียดหลักสูตรอบรม ดร.สิทธิพร อิสระศักดิ์ ผู้อำนวยการหลักสูตร World Class Destination Development กล่าวว่า หลักสูตรนี้ กำหนดจัดอบรมทุกวันเสาร์ ระหว่างวันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคม-30 สิงหาคม 2568 เวลา 09.00-16.00 น. รวม 8 วัน จำนวน 64 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายคนละ 49,500 บาท

ไทม์ไลน์หลักสูตรอบรม 8 วัน 64 ชั่วโมง มีรายละเอียด ดังนี้

วันที่ 1  (เสาร์ 19 กรกฏาคม 2568) ดูงานโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ by MQDC

วันที่ 2 (อาทิตย์ 20 กรกฎาคม 2568) กิจกรรมปฐมนิเทศน์หลักสูตรอบรม ที่โรงแรมเมเลีย พัทยา ของ AWC

วันที่ 3 (เสาร์ 26 กรกฎาคม 2568) เรียนรู้และดูงานโครงการ วัน แบงค็อก

วันที่ 4 (เสาร์ 2 สิงหาคม 2568) เลคเชอร์ TOD-Transit Oriented Development โดยต้นฉบับ “บริษัท เออร์เบิน เรอเนซองส์” จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งพัฒนา TOD จนครบถ้วนในญี่ปุ่น เริ่มขยับการลงทุนไปออสเตรเลีย และมุ่งเข็มทิศมาโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งไทยด้วย ณ หอสมุด คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาฯ

วันที่ 5 (เสาร์ 9 สิงหาคม 2568) รับฟังบรรยายประสบการณ์ 36 ปีศุภาลัย และดูงานโครงการศุภาลัย ไอคอน สาทร

วันที่ 6 (เสาร์ 16 สิงหาคม 2568) รับฟังบรรยายประสบการณ์ 66 ปี สยามพิวรรธน์ และดูงานสยามพารากอน

วันที่ 7 (เสาร์ 23 สิงหาคม 2568) เจาะลึก ฟาซิลิตี้ แมเนจเมนต์ และดูงานที่ไอคอนสยาม

วันที่ 8 (เสาร์ 30 สิงหาคม 2568) เวิร์กช็อปและแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากผู้เรียนในคลาส และปิดหลักสูตรอบรม

สำหรับผู้ที่สนใจเปิดรับสมัครแล้วตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2568 รับจำนวนจำกัด 50 คนเท่านั้น

สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ Facebook: CUD4S สอบถามข้อมูลได้ที่ Line OA: @cud4s โทร 02-218-4316 Email: [email protected]

เจ้าภาพโดย “CU D4S-ศูนย์ออกแบบเพื่อสังคม จุฬาฯ”, สร้างพื้นที่แห่งการเรียนรู้ที่มีชีวิต (Living Learning Platform), สัมผัสเบื้องหลัง “สยามพารากอน” The Pride of Bangkok, สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Live long learning), ดูงานโครงการแฟลกชิป Lifestyle Destination เครือ AWC, เปิดโลกป่าในเมืองทำได้จริง “เดอะ ฟอเรสเทียส์ by MQDC”, ”เจ้าสัวประทีป-ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม” แชร์ประสบการณ์ 36 ปีศุภาลัย, อบรม 8 วัน 64 ชั่วโมง ปั้นนักพัฒนาโปรเจ็กต์ระดับโลก

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่