ตาดำคล้ำไม่ใช่แค่อดนอน รู้จักสาเหตุและวิธีแก้ไข

การอดนอนหรือนอนไม่พอทำให้ร่างกายพักผ่อนไม่เต็มที่ นอกจากอาการง่วงนอนหรือมึนศีรษะระหว่างวันแล้ว รอยคล้ำใต้ตา หรือที่มักเรียกกันว่า ตาแพนด้า ก็เป็นหนึ่งในสัญญาณของการอดนอนด้วยเช่นกัน แต่นอกจากการนอนไม่พอแล้วยังมีอีกหลายสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการรอยคล้ำใต้ตาได้ด้วย

อะไรเป็นสาเหตุของรอยคล้ำใต้ตา?

ผิวหนังใต้ตาของเราบอบบางและมีแนวโน้มที่จะเสียหายได้ง่ายกว่าส่วนอื่นๆ ของใบหน้า เนื่องจากมีต่อมน้ำมันน้อยกว่าและมีคอลลาเจนน้อยกว่าส่วนอื่นๆ ของร่างกาย จากการวิจัยที่ตีพิมพ์ใน Advanced Biomedical Research เผยว่าปัจจัยเหล่านี้อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้บริเวณใต้ตาของเรามีแนวโน้มที่จะเกิดริ้วรอย ร่องลึก และดูหมองคล้ำได้ง่ายกว่า

อะไรเป็นสาเหตุของรอยคล้ำใต้ตา?, การอดนอน, วัยที่มากขึ้น, พันธุกรรม, อาการแพ้, โรคผิวหนังอักเสบ, ปัจจัยด้านไลฟ์สไตล์, รอยคล้ำใต้ตาบ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพหรือไม่?, วิธีแก้ไขรอยคล้ำใต้ตา, การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม, วิธีแก้ปัญหาทางการแพทย์

ภาพจาก iStock

เมื่อเรานึกถึงรอยคล้ำใต้ตา เรามักจะนึกถึงปัญหาการนอนหลับเป็นสาเหตุ เช่น การนอนหลับไม่สนิท การอดนอน การตื่นบ่อย และการนอนหลับไม่เพียงพอ แต่จริงๆ แล้วมีสาเหตุหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดรอยคล้ำใต้ตาได้ เช่น

การอดนอน

ดร.คริส วินเทอร์ นักประสาทวิทยาด้านการนอนหลับ และที่ปรึกษาด้านการนอนหลับของ Sleep.com และ Mattress Firm อธิบายว่าการนอนหลับไม่เพียงพอเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของรอยคล้ำใต้ตา

อะไรเป็นสาเหตุของรอยคล้ำใต้ตา?, การอดนอน, วัยที่มากขึ้น, พันธุกรรม, อาการแพ้, โรคผิวหนังอักเสบ, ปัจจัยด้านไลฟ์สไตล์, รอยคล้ำใต้ตาบ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพหรือไม่?, วิธีแก้ไขรอยคล้ำใต้ตา, การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม, วิธีแก้ปัญหาทางการแพทย์

ภาพจาก iStock

"เมื่อนอนหลับไม่เพียงพอ จะทำให้เกิดการขยายตัวของหลอดเลือดและการไหลเวียนของเลือดเพิ่มขึ้น เมื่อหลอดเลือดใต้ตาขยายตัว จะทำให้เกิดสีน้ำเงินคล้ำใต้ตา"

วัยที่มากขึ้น

ดร.ยูนา ราโปพอร์ต จักษุแพทย์และผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการของ Manhattan Eye กล่าวว่า ความชราเป็นอีกสาเหตุทั่วไปของรอยคล้ำใต้ตา พร้อมอธิบายว่า

"เรามีเนื้อเยื่อและไขมันตามธรรมชาติที่อยู่ระหว่างเบ้าตาและโหนกแก้มของเรา เมื่ออายุมากขึ้น เนื้อเยื่อนี้มีแนวโน้มที่จะยุบตัวและหายไป"

อะไรเป็นสาเหตุของรอยคล้ำใต้ตา?, การอดนอน, วัยที่มากขึ้น, พันธุกรรม, อาการแพ้, โรคผิวหนังอักเสบ, ปัจจัยด้านไลฟ์สไตล์, รอยคล้ำใต้ตาบ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพหรือไม่?, วิธีแก้ไขรอยคล้ำใต้ตา, การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม, วิธีแก้ปัญหาทางการแพทย์

ภาพจาก iStock

เมื่อผิวหนังใต้ตาของเราเปลี่ยนแปลงอันเป็นผลมาจากกระบวนการชราตามธรรมชาติ ความไม่สมบูรณ์จะปรากฏชัดเจนขึ้น ซู กล่าวว่า "เมื่อเราอายุมากขึ้น ผิวหนังของเราจะบางลง และหลอดเลือดดำใต้ตาจะปรากฏชัดเจนขึ้น ทำให้เกิดภาพลวงตาของรอยคล้ำใต้ตา"

พันธุกรรม

พันธุกรรมดูเหมือนจะเป็นปัจจัยว่าทำไมบางคนถึงมีแนวโน้มที่จะมีรอยคล้ำใต้ตามากกว่าคนอื่น ๆ แม้ว่าจะต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อทำความเข้าใจว่าสิ่งนี้ทำงานอย่างไร

การศึกษาเก่าฉบับหนึ่งพบว่าการมีเม็ดสีใต้ตามากขึ้นมักจะสังเกตเห็นได้ครั้งแรกในวัยเด็กและจะแย่ลงเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป ไม่น่าแปลกใจที่ในครอบครัวที่มีรอยคล้ำใต้ตาเป็นเรื่องปกติ ความเครียดดูเหมือนจะทำให้รอยคล้ำปรากฏชัดเจนขึ้น ในขณะที่การพักผ่อนและการรักษาสุขภาพจะช่วยปรับปรุงให้ดีขึ้น

อาการแพ้

อาการแพ้เป็นสาเหตุที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักแต่ก็ยังเป็นสาเหตุทั่วไปของรอยคล้ำใต้ตาได้ ดร.ลินน์ แมคคินลีย์-แกรนท์ แพทย์ผิวหนังและที่ปรึกษาด้านผลิตภัณฑ์ดูแลผิว Namesake กล่าวว่า ไม่ใช่แค่อาการแพ้เองที่ทำให้เกิดรอยคล้ำใต้ตา อาการแพ้ตามฤดูกาล สามารถทำให้ผิวหนังคล้ำลงเนื่องจากการขยี้ตาเพราะรู้สึกระคายเคือง ทำให้เกิดการบาดเจ็บที่ผิวหนังจนเป็นรอยคล้ำ

โรคผิวหนังอักเสบ

การระคายเคืองหรือการอักเสบของผิวหนังบริเวณใกล้ดวงตาทุกชนิด สามารถทำให้เกิดรอยคล้ำใต้ตาได้เช่นกัน การศึกษาพบว่ารอยคล้ำใต้ตาพบได้บ่อยในผู้ที่มีโรคผิวหนังอักเสบภูมิแพ้ (eczema) หรือโรคผิวหนังอักเสบจากการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ (ผื่นที่เกิดจากการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้) โรคผิวหนังอักเสบสามารถทำให้หลอดเลือดใต้ผิวหนังขยายตัว ซึ่งสามารถทำให้เกิดลักษณะที่คล้ำขึ้นได้

ปัจจัยด้านไลฟ์สไตล์

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยด้านไลฟ์สไตล์บางอย่างที่สามารถทำให้เกิดรอยคล้ำใต้ตาหรือทำให้แย่ลงได้ เช่น

  • ภาวะขาดน้ำ
  • ความเครียด
  • การบริโภคเกลือมากเกินไป
  • การขยี้ตามากเกินไป
  • การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • การสูบบุหรี่
อะไรเป็นสาเหตุของรอยคล้ำใต้ตา?, การอดนอน, วัยที่มากขึ้น, พันธุกรรม, อาการแพ้, โรคผิวหนังอักเสบ, ปัจจัยด้านไลฟ์สไตล์, รอยคล้ำใต้ตาบ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพหรือไม่?, วิธีแก้ไขรอยคล้ำใต้ตา, การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม, วิธีแก้ปัญหาทางการแพทย์

ภาพจาก iStock

รอยคล้ำใต้ตาบ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพหรือไม่?

อย่างไรก็ตาม รอยคล้ำใต้ตาไม่ค่อยบ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพ แต่ถ้ามาพร้อมกับอาการอื่นๆ เช่น น้ำหนักลดลงอย่างกะทันหัน ทำให้บริเวณใต้ตาดูโหลและคล้ำขึ้น อาจสามารถบ่งชี้ถึงมะเร็งบางชนิด เอชไอวี หรือภาวะภูมิต้านทานผิดปกติได้

ราโปพอร์ตอธิบายว่า "หากถุงใต้ตาหรือความโหลเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ การตรวจโดยแพทย์เพื่อแยกแยะภาวะต่าง ๆ ที่กล่าวมาเป็นความคิดที่ดี หากเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ส่วนใหญ่น่าจะเกิดจากความชรา แต่มาตรการป้องกัน เช่น การดื่มน้ำให้เพียงพอ โภชนาการที่ดี และการนอนหลับที่เหมาะสม สามารถช่วยได้"

วิธีแก้ไขรอยคล้ำใต้ตา

จากการวิจัยที่ตีพิมพ์ใน The Journal of Clinical and Aesthetic Dermatology ระบุว่ารอยคล้ำใต้ตาเป็นหนึ่งในภาวะที่แพทย์ผิวหนังพบได้บ่อยที่สุด ซึ่งมีตัวเลือกมากมายสำหรับการรักษารอยคล้ำ รวมถึงการเยียวยาด้วยตนเองที่บ้านและวิธีแก้ไขในทางการแพทย์มากขึ้น

การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม

หากคุณต้องการลดการปรากฏของรอยคล้ำใต้ตา การปรับพฤติกรรมให้มีสุขภาพดีขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือการพักผ่อนให้มากขึ้นเป็นกุญแจสำคัญ แมคคินลีย์-แกรนท์ กล่าวว่า การนอนหลับไม่เพียงพอเป็นสาเหตุหลักของรอยคล้ำใต้ตา ดังนั้นการทำทุกอย่างที่คุณสามารถทำได้เพื่อให้ได้นอนหลับอย่างเพียงพอจึงเป็นกุญแจสำคัญในการขจัดรอยคล้ำเหล่านั้น โดยแนะนำให้

อะไรเป็นสาเหตุของรอยคล้ำใต้ตา?, การอดนอน, วัยที่มากขึ้น, พันธุกรรม, อาการแพ้, โรคผิวหนังอักเสบ, ปัจจัยด้านไลฟ์สไตล์, รอยคล้ำใต้ตาบ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพหรือไม่?, วิธีแก้ไขรอยคล้ำใต้ตา, การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม, วิธีแก้ปัญหาทางการแพทย์

ภาพจาก iStock

  • นอนหลับคืนละ 7 - 9 ชั่วโมง เพื่อลดถุงใต้ตาหรือรอยคล้ำใต้ตา
  • นอนหนุนหมอนระดับสูงเพื่อลดอาการบวมที่สะสมรอบดวงตาขณะนอนหลับ
  • การทาครีมกันแดดเป็นประจำ
  • ผ่อนคลายความเครียด
  • ลดการบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และคาเฟอิน
  • นำแตงกวามาวางบนดวงตา เพื่อช่วยลดอาการบวมและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว
  • ใช้ผ้าเย็นประคบเพื่อลดรอยคล้ำใต้ตา แนะนำให้แช่ผ้าประคบในชาเขียวหรือชาดำเย็น เพราะมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ

วิธีแก้ปัญหาทางการแพทย์

หากวิธีแก้ปัญหาด้วยตนเองไม่ได้ผล และยังคงรู้สึกแย่กับรอยคล้ำใต้ตา อาจถึงเวลาไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อช่วยแก้ไขปัญหา ซึ่งมีการรักษาหลายอย่างที่สามารถช่วยบรรเทารอยคล้ำได้

  • การเติมฟิลเลอร์ใต้ตา ซึ่งช่วยให้ผิวบริเวณใต้ตาเรียบเนียนและช่วยลดรอยคล้ำใต้ตาได้
  • การรักษาด้วยเลเซอร์เพื่อลดการสร้างเม็ดสี
  • การปลูกถ่ายไขมันตัวเอง เพื่อทำให้ผิวหนังบางลงและโปร่งใสน้อยลง

รอยคล้ำใต้ตาเป็นเรื่องปกติและแทบจะไม่เป็นอันตรายเลย แต่สร้างความไม่มั่นใจให้กับบุคลิกภาพ เพราะทำให้หน้าตาดูเหนื่อยล้าและดูแก่กว่าวัย การปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ เช่น การพักผ่อนให้มากขึ้นและผ่อนคลายความเครียด นอกจากช่วยลดรอยคล้ำใต้ตาแล้วยังช่วยให้สุขภาพอื่น ๆ ดีขึ้น แต่ถ้าลองทำแล้วยังไม่ได้ผลมากพอเท่าที่ต้องการ การพึ่งพาแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ตาดำคล้ำไม่ใช่แค่อดนอน รู้จักสาเหตุและวิธีแก้ไข

ตามข่าวก่อนใครได้ที่