อุไร ห่านพะโล้ 60 ปี ย่านถนนทรงวาด | ไทยรัฐโภชนา
วัลลภ มโนวงศ์พิเชฐ หรือ "เฮียฮ้อ" ทายาทรุ่นที่ 3 ผู้สืบทอดตำนานความอร่อยแห่งร้านอุไรห่านพะโล้ ทรงวาด ที่ยืนหยัดเสิร์ฟความอร่อยมายาวนาน
อุไรห่านพะโล้ ทรงวาด คือตัวจริงเรื่องห่าน โดยทางร้านมุ่งเน้นไปที่ห่านพะโล้รสเลิศ และไม่มีเป็ดพะโล้
อุไร ห่านพะโล้ ทรงวาด
อุไรห่านพะโล้ ทรงวาด ตัวจริงเรื่องห่าน
เลือกอร่อยได้ตามสไตล์ อยากสัมผัสความนุ่ม ชุ่มฉ่ำเป็นพิเศษ ต้องลองเนื้อส่วนสะโพกติดน่อง หรือจะเป็นเนื้อหน้าอก สำหรับคนที่ชอบรสชาติเนื้อแน่นๆ แบบเต็มคำ ทุกจานบรรจงจัดเรียงเนื้อห่านมาอย่างสวยงามน่าทาน ราดด้วยน้ำพะโล้หอมกรุ่น เข้มข้น โรยหน้าด้วยผักชีเพิ่มสีสันและความหอม
ห่านพะโล้รสเลิศ จากร้านอุไร ห่านพะโล้
ส่วนใครชอบแบบชุ่มโชกถึงใจ ต้องขอน้ำพะโล้ใส่ถ้วยแยกมาต่างหาก เอาไว้ราดบนข้าวสวยร้อนๆ ให้ชุ่ม บอกเลยว่านี่คือสวรรค์ของรสชาติ สำหรับคนรักห่านพะโล้อย่างแน่นอน และที่ขาดไม่ได้คือน้ำจิ้มพริกเหลืองสูตรเด็ด ที่ตำสดใหม่ผสมผสานความเปรี้ยวจากน้ำส้มสายชู ความเผ็ดหอมของกระเทียมสด และผักชีได้อย่างลงตัว จิ้มคู่กับเนื้อห่านนุ่มๆ แล้วรสชาติจะยิ่งกลมกล่อมลงตัวสุดๆ
สำหรับสาวกเครื่องใน ที่นี่มีให้ลิ้มลองกันทุกวัน แต่ถ้าอยากฟินกับ "ไส้ห่านพะโล้" อันเลื่องชื่อ ต้องเล็งวันให้ดี เพราะมีเฉพาะวันพุธกับวันเสาร์เท่านั้น เพราะไส้ห่านนั้นจะทำยากกว่า ต้องพิถีพิถัน คัดสรร และรอรวบรวมห่าน 10 ถึง 20 ตัว ใช้เวลา 3-4 วัน กว่าจะได้ไส้ห่านพะโล้รสเด็ดมาให้เราได้ทาน
ซดซุปร้อนๆ เอาไว้แก้เลี่ยนได้
แน่นอนว่าหากทานห่านพะโล้แล้ว ต้องมีน้ำแกงร้อนๆ เป็นซุปคู่หู ซดคล่องคอ ไว้แก้เลี่ยน โดยที่ร้านมีเมนูน้ำซุปเด็ด สลับสับเปลี่ยนไปมาให้ชิมถึง 4 เมนูหลักๆ คือ
ต้มเกี้ยมฉ่ายกระดูกหมู รสกลมกล่อม แกงจืดใบจิงจูฉ่ายหมูสับ หอมอร่อย หรือจะเป็นแกงจืดผักน้ำเบตง บอกเลยว่าเมนูนี้หาทานยาก และแกงจืดสาหร่ายสุดคลาสสิก
นอกจากนี้ ยังมีต้มมะระซี่โครงหมู ที่มีสรรพคุณแก้ร้อนใน, แกงจืดหัวไชเท้า หวานน้ำต้มกระดูก และถ้ามาช่วงหน้าหนาว ก็จะได้ซดแกงจืดตั้งโอ๋หอมๆ อีกด้วย
เฮียฮ้อ-วัลลภ มโนวงศ์พิเชฐ
"เฮียฮ้อ" ได้กระซิบบอกเคล็ดลับสำคัญที่ทำให้ห่านพะโล้ร้านนี้อร่อยไม่เหมือนใคร นั่นคือต้องเลือกใช้ห่านตัวเมียเท่านั้น เพราะจะให้เนื้อที่นุ่มละมุนลิ้น หอมฟุ้ง ปราศจากกลิ่นสาบกวนใจ โดยเฮียแกเล่าให้ฟังว่า "คนเคยทานห่านร้านนี้แล้ว ส่วนใหญ่จะติดใจ เพราะรสสัมผัสของห่านกับเป็ดมันต่างกันคนละขั้ว
แน่นอนว่าเนื้อเป็ดบางเจ้าหากทำไม่ดีอาจจะมีกลิ่นสาบติดมาบ้าง แต่เนื้อห่านของที่นี่ ทั้งนุ่ม ทั้งหวาน กินแล้วลืมไม่ลงอย่างแน่นอน
การทำห่านพะโล้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้ความละเอียด พิถีพิถัน และความประณีตมากกว่าการทำเป็ดหลายเท่าตัว
หัวใจสำคัญคือการต้มต้องใช้ไฟอ่อนๆ อย่างใจเย็น ค่อยๆ เคี่ยวไปเรื่อยๆ เพราะถ้าใช้ไฟแรง เนื้อห่านจะแตก ไม่สวยงาม แถมเนื้อจะกระด้างอีกด้วย รวมถึงต้องค่อยๆ พลิก คอยดูแลอย่างใกล้ชิด กว่าเนื้อห่านจะนุ่มได้ที่ก็ใช้เวลาราวๆ 2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับขนาดตัวห่าน
กิจวัตรประจำวันของเฮียฮ้อคือต้องตื่นมาเปิดเตาตั้งแต่ตี 4 ครึ่ง! ค่อยๆ เคี่ยวน้ำพะโล้ กว่าน้ำจะเดือดได้ที่ก็ปาเข้าไป 7 โมงเช้า จากนั้นถึงจะนำห่านลงต้มอย่างบรรจง รอจนสุกได้ที่ประมาณ 9 โมงครึ่ง ก็พร้อมสับขายตอน 10 โมงเช้าพอดี
แน่นอนว่าความอร่อยระดับตำนานนี้ มีเวลาจำกัด ร้านเปิดขายเพียง ไม่กี่ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น
จันทร์ - ศุกร์: 10:00 น. - 13:00 น. (บ่ายโมง)
เสาร์ - อาทิตย์: 10:00 น. - 12:00 น. (เที่ยงวัน)
เฮียฮ้อฝากบอกว่า "หมดแล้วหมดเลย" ใครมาไม่ทันก็อาจจะต้องรอวันต่อไป หรือทางที่ดี สามารถโทรมาจองล่วงหน้า จะได้ไม่พลาดความอร่อย
หัวใจของอุไรห่านพะโล้ คือน้ำพะโล้ของที่นี่เป็นตำนานที่ยังมีลมหายใจ สูตรเด็ดที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงมากว่า 60 ปี! จุดเด่นอยู่ที่การคัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศ ทั้งเครื่องเทศ เครื่องยาจีน น้ำมันหอย ทุกอย่างต้องเป็นเกรด A เท่านั้น เพื่อให้ได้รสชาติที่หอม กลมกล่อม เข้มข้นถึงใจ
วันไหนถ้ามาอุไร ห่านพะโล้ แล้วต้องรับบัตรคิวไม่ต้องแปลกใจไป เพราะนี่คือร้านแห่งตำนาน
เคล็ดลับสำคัญอีกอย่างคือการควบคุมไฟ ต้องต้มด้วยไฟอ่อนๆ เสมอ หากใช้ไฟแรงน้ำพะโล้จะขุ่นทันที ซึ่งเฮียฮ้อบอกว่า ถ้าน้ำขุ่นคือเสียคุณภาพไปเลย รวมถึงต้องคอยช้อนฟองที่ไม่ดีทิ้งก่อนที่จะนำห่านลงต้ม น้ำพะโล้ที่ดีต้องใส ไม่ขุ่น นี่แหละคือมาตรฐานของอุไรห่านพะโล้
ปัจจุบันลูกค้าเก่าแก่ยังคงแวะเวียนมาอุดหนุนไม่ขาดสาย ก็เพราะความใส่ใจในคุณภาพที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง เฮียฮ้อบอกว่า "ทานกี่ปีๆ ยังต้องคงรสชาติเดิม" นี่คือสิ่งสำคัญที่สุด
ในช่วงเวลาพีคๆ ไม่ต้องแปลกใจ ถ้าเห็นลูกค้ามายืนรอเต็มหน้าร้าน จนถึงขั้นต้องทำบัตรคิวกันเลยทีเดียว นี่คือเครื่องยืนยันว่าการยึดมั่นในคุณภาพและมาตรฐานอย่างสม่ำเสมอ คือสิ่งที่ทำให้อุไรห่านพะโล้ ทรงวาด ครองใจลูกค้ามาได้อย่างยาวนาน จนถึงทุกวันนี้
