รู้จักโรคมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อน อาการเป็นอย่างไร รักษาได้หรือไม่

การจากไปของแสตมป์ หรือ ชาวิษณ์ ชินสนธิกุล นักบินหนุ่มที่ป่วยโรคมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อนชนิดหายาก หลังจากต่อสู้กับโรคมานานกว่า 3 ปี ทำให้หลายคนอยากรู้จักโรคมะเร็งชนิดนี้ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักมากขึ้น

มะเร็งเนื้อเยื่ออ่อน คืออะไร

มะเร็งเนื้อเยื่ออ่อน(Soft Tissue Sarcomas) เป็นหนึ่งในประเภทของมะเร็งซาร์โคมา (Sarcoma) เป็นมะเร็งที่พบน้อยและมีความร้ายแรง ซึ่งพัฒนาขึ้นในกระดูกและเนื้อเยื่ออ่อนของร่างกาย รวมถึงไขมัน กล้ามเนื้อ หลอดเลือด เส้นประสาท เนื้อเยื่อผิวหนังชั้นลึก และเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน มะเร็งชนิดนี้แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักตามตำแหน่งที่เกิด ได้แก่

  1. มะเร็งเนื้อเยื่ออ่อน (Soft Tissue Sarcomas) ซึ่งมักเกิดขึ้นในแขน ขา หน้าอก หรือช่องท้อง และพบได้บ่อยในผู้ใหญ่
  2. มะเร็งซาร์โคมาที่กระดูก (Bone Sarcomas) เป็นเนื้องอกกระดูกปฐมภูมิที่มักวินิจฉัยพบในเด็กมากกว่า

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อน

ข้อมูลจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เผยว่ามะเร็งเนื้อเยื่ออ่อน (Soft tissue sarcoma) เป็นมะเร็งที่พบไม่บ่อย สาเหตุการเกิดโรคยังไม่ชัดเจน ปัจจัยเสี่ยงที่สัมพันธ์กับการเกิดโรคได้แก่

  • ประวัติการได้รับการฉายรังสีในบริเวณนั้นๆ
  • สารเคมีบางชนิด
  • ภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ
  • โรคทางพันธุกรรมบางชนิด

มะเร็งเนื้อเยื่ออ่อนมีลักษณะทางพยาธิวิทยาที่หลากหลาย แบ่งเป็นชนิดย่อยได้มากกว่า 50 ชนิด ตำแหน่งของโรคที่พบบ่อยที่สุดคือบริเวณแขนขา พบได้ 50% รองลงมา ได้แก่ ลำตัว (40%) และศีรษะและลำคอ (10%) ตามลำดับ

มะเร็งเนื้อเยื่ออ่อน คืออะไร, ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อน, สัญญาณเตือนอาการมะเร็งซาร์โคมา, แนวทางการรักษามะเร็งซาร์โคมา, การป้องกันและการรับมือกับโรคมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อน

ภาพจาก iStock

แพทย์วินิจฉัยโรคโดยการตัดชิ้นเนื้อไปตรวจทางพยาธิวิทยา รวมทั้งการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์/ภาพเอ็มอาร์/เพ็ทสแกนเพิ่มเติมเพื่อจัดระยะของโรค

ที่น่ากังวลคือผู้ป่วย 20% มาพบแพทย์ด้วยโรคระยะแพร่กระจาย อวัยวะที่มักเกิดการแพร่กระจายไป คือ ปอด, กระดูก, ตับ โดยที่พบการกระจายไปต่อมน้ำเหลืองบริเวณใกล้เคียงอาจพบได้ในบางชนิดพยาธิวิทยาเท่านั้น พบได้ไม่บ่อยเมื่อเทียบกับมะเร็งชนิดอื่นๆ

สัญญาณเตือนอาการมะเร็งซาร์โคมา

อาการของมะเร็งซาร์โคมามีความคล้ายกับอาการเจ็บป่วยอื่นๆ ที่ไม่รุนแรง ดังนั้น หากมีอาการเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้องเสมอ

อาการมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อน

  • มีก้อนใหม่หรือก้อนที่ค่อยๆ โตขึ้นที่ใดที่หนึ่งในร่างกาย อาจมีอาการเจ็บหรือไม่เจ็บก็ได้
  • ก้อนอาจนิ่มและอุ่นเมื่อสัมผัส และบริเวณรอบก้อนอาจบวมและกดเจ็บ หรือมีอาการปวด
  • บางครั้งก้อนอาจไม่เจ็บ และดูเหมือนรอยฟกช้ำหรือเนื้องอกไขมันชนิดไม่ร้ายแรง (lipoma)
  • หากมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อนเติบโตและไปกดทับเส้นประสาท อวัยวะ หรือกล้ามเนื้อข้างเคียง อาจทำให้เกิดอาการปวด รู้สึกแน่น หรือหายใจลำบาก
  • มีอาการปวดท้องมากขึ้น
  • อุจจาระมีสีดำคล้ายยางมะตอย หรือมีเลือดปนในอุจจาระหรืออาเจียน (บ่งชี้ว่าอาจมีเลือดออกในกระเพาะอาหารหรือลำไส้)
  • คลื่นไส้และอาเจียน
  • น้ำหนักลดโดยไม่ตั้งใจ
  • หากเกิดในช่องท้องด้านหลัง (retroperitoneum) มักเกิดจากปัญหาเนื้องอก เช่น การอุดตันหรือเลือดออกในกระเพาะอาหารหรือลำไส้ การกดทับเส้นประสาท หลอดเลือด หรืออวัยวะใกล้เคียง หรือก้อนเนื้อที่ใหญ่จนสามารถคลำได้ในท้อง
มะเร็งเนื้อเยื่ออ่อน คืออะไร, ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อน, สัญญาณเตือนอาการมะเร็งซาร์โคมา, แนวทางการรักษามะเร็งซาร์โคมา, การป้องกันและการรับมือกับโรคมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อน

ภาพจาก iStock

อาการมะเร็งซาร์โคมาที่กระดูก

  • มีอาการปวดและ/หรือบวมที่แขน ขา ลำตัว เชิงกราน หรือหลัง โดยอาการบวมอาจรู้สึกอุ่นหรือไม่ก็ได้
  • การเคลื่อนไหวของข้อจำกัด
  • มีไข้โดยไม่ทราบสาเหตุ
  • กระดูกหักโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน

แนวทางการรักษามะเร็งซาร์โคมา

สำหรับวิธีการรักษามะเร็งซาร์โคมาทั้งมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อนและมะเร็งซาร์โคมาที่กระดูกสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การผ่าตัด การฉายรังสี การใช้เคมีบำบัด การใช้ยามุ่งเป้า และการใช้ภูมิคุ้มกันบำบัด โดยขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์ว่าวิธีไหนเหมาะสมกับการรักษาผู้ป่วยในแต่ละบุคคล

การป้องกันและการรับมือกับโรคมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อน

ปัจจุบันยังไม่มีแนวทางป้องกันมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อนได้แน่ชัด เนื่องจากส่วนใหญ่เกิดขึ้นโดยไม่มีปัจจัยเสี่ยงที่ชัดเจน หากพบว่ามีอาการผิดปกติที่มีความเสี่ยงควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับอาการที่อาจเป็นสัญญาณของโรค เพื่อให้สามารถดำเนินการรักษาได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ก่อนที่เนื้องอกจะแพร่กระจาย

อัตราการรอดชีวิต: โดยรวมแล้ว ผู้ใหญ่ที่เป็นมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อนประมาณ 65% มีชีวิตอยู่ได้ 5 ปีหลังการวินิจฉัย สำหรับเด็กและวัยรุ่น อัตราการรอดชีวิตจะแตกต่างกันไปตามชนิดของซาร์โคมา ตัวอย่างเช่น

  • มะเร็งกล้ามเนื้อลาย (Rhabdomyosarcoma : RMS) ประมาณ 70% สามารถมีชีวิตอยู่ได้ 5 ปีหลังการวินิจฉัย
  • มะเร็งซาร์โคมายูอิ้ง (Ewing sarcoma: ES) มีอัตราการรอดชีวิต 5 ปีโดยรวมคือ 76% สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี และ 59% สำหรับวัยรุ่นอายุ 15-19 ปี

การดูแลตนเองและผู้ป่วย: การรักษามะเร็งซาร์โคมาอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่การดูแลตนเองอย่างเหมาะสมและได้รับกำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ

โภชนาการ: หากมีปัญหาเรื่องการรับประทานอาหารเนื่องจากเคมีบำบัด ควรปรึกษานักโภชนาการ

มะเร็งเนื้อเยื่ออ่อน คืออะไร, ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อน, สัญญาณเตือนอาการมะเร็งซาร์โคมา, แนวทางการรักษามะเร็งซาร์โคมา, การป้องกันและการรับมือกับโรคมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อน

ภาพจาก iStock

การพักผ่อน: การรักษามะเร็งอาจทำให้เหนื่อยล้ามาก ควรพักผ่อนให้เพียงพอ

การจัดการความเครียด: กิจกรรม เช่น การทำสมาธิ การฝึกผ่อนคลาย หรือการหายใจลึกๆ อาจช่วยลดความเครียดได้

การสนับสนุน: การมีมะเร็งอาจทำให้รู้สึกโดดเดี่ยว โดยเฉพาะสำหรับเด็กที่เผชิญกับสิ่งที่เพื่อนๆ อาจไม่เข้าใจ การทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านชีวิตเด็ก (child life specialist) อาจเป็นประโยชน์

การติดตามผล: ควรมีการนัดหมายติดตามผลหลังการรักษา เพื่อให้แพทย์สามารถเฝ้าระวังสุขภาพโดยรวมและภาวะเฉพาะของคุณ

หากมีข้อสงสัยหรืออาการใดๆ ที่บ่งชี้ถึงความจำเป็นในการดูแลทางการแพทย์ฉุกเฉิน ควรปรึกษาแพทย์ทันที