‘แมเนอร์ กรุ๊ป’ รุก ลงทุนโรงแรมใหม่ 10 แห่งใน 5 ปี

“แมเนอร์ กรุ๊ป” กลุ่มบริษัทสิงคโปร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์บูทีค เติบโตจากการมุ่งเน้นโครงการที่พักอาศัยสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจโรงแรม อาหาร และเครื่องดื่ม โดยได้สร้างพอร์ตการลงทุนทั่วเอเชีย และมีผลงานในการออกแบบ พัฒนา และปรับปรุงโรงแรมบูทีคหรู

“จอห์น ลิม” ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารแมเนอร์ กรุ๊ป (Manor Group) ให้สัมภาษณ์ถึงวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ในการขยายพอร์ตโฟลิโอธุรกิจโรงแรมในภูมิภาคเอเชีย

ปรับสาขาเชียงใหม่สู่ รร.หรู

“จอห์น ลิม” บอกว่า สำหรับประเทศไทยนั้น “แมเนอร์ กรุ๊ป” เพิ่งรีแบรนด์ “โรงแรมอะเมเนอร์ เชียงใหม่” เพื่อพลิกโฉมสู่มาตรฐานใหม่ของความหรูหรา พร้อมนำเสนอประสบการณ์การเข้าพักที่ผสมผสานความสง่างามของดีไซน์สมัยใหม่เข้ากับความอบอุ่นของบริการแบบบัตเลอร์ส่วนตัว สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการต้อนรับในภาคเหนือของประเทศไทย

พร้อมเล่าถึงจุดเริ่มต้นและที่มาของชื่อ “Manor” ว่ามีรากศัพท์จากภาษาละติน “Manere” ซึ่งหมายถึงการพักและการคงอยู่ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบจนผู้มาเยือนอยากกลับมาอีกครั้งแล้วครั้งเล่า “Return”

ผนึก “ยูนิคอร์น ฮอสพิทาลิตี้”

และย้อนความว่าพื้นเพเดิมของเขาไม่ใช่ผู้ที่อยู่ในวงการ Hospitality โดยตรง แต่เป็นวิศวกรจบสาขาวิทยาศาสตร์ด้านวัสดุผสมจากสถาบันอิมพีเรียลคอลเลจ ลอนดอน มีจุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อได้พบกับ “ยานน์ กูริยู” ซีอีโอของ “ยูนิคอร์น ฮอสพิทาลิตี้” ซึ่งเป็นบริษัทบริหารจัดการและให้คำปรึกษาด้านธุรกิจโรงแรม อาหาร และเครื่องดื่ม ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ ในปี 2018

จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมการบริการ โดยแรงบันดาลใจในการลงทุนธุรกิจโรงแรมของเขานั้นมาจากครอบครัวที่เป็นพ่อค้าและทำด้านการกุศลในจีน และการเลือก “เชียงใหม่” เป็นจุดเริ่มต้นนั้นมาจากประสบการณ์การเป็นจิตอาสาและทำงานด้านการกุศลในเชียงใหม่เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ทำให้มองเห็นโอกาสในการทำธุรกิจ

และการรีแบรนด์จาก Akira Manor เชียงใหม่ มาเป็น AMANOR ในเดือนเมษายนที่ผ่านมานั้น เกิดขึ้นจากความรู้และความเข้าใจที่มากขึ้นในการบริหารจัดการโรงแรม หลังจากการร่วมเป็นพันธมิตรกับยูนิคอร์น

ปรับสาขาเชียงใหม่สู่ รร.หรู, ผนึก “ยูนิคอร์น ฮอสพิทาลิตี้”, เปิดเพิ่มสิงคโปร์-ซัปโปโรปี 2028, โมเดลลงทุนหลากหลาย, ตั้งเป้าขยายอีก 10 แห่งใน 5 ปี, ชูลักเซอรี่-จุดขายชัดเจน

Manor Group

เปิดเพิ่มสิงคโปร์-ซัปโปโรปี 2028

“จอห์น ลิม” บอกด้วยว่า ปัจจุบัน Manor Group มีโรงแรมในเครือ 5 แห่ง ได้แก่ AMANOR Hotel Chiang Mai, Shimaya Stays Kyoto, The Edison George Town Penang, AMANOR Stay Singapore ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการ และจะเปิดในปี 2028 หรือในอีก 3 ปีข้างหน้า และ AMANOR Hotel Jozankei, Sapporo ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการและจะเปิดในปี 2028 เช่นกัน

โดยย้ำว่าหัวใจสำคัญในการสร้างการเติบโตและความสำเร็จของกลุ่มคือ “People Business” หรือเรื่องของคนและพนักงาน ซึ่งอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของธุรกิจเสมอ

โมเดลลงทุนหลากหลาย

ในปีนี้ Manor Group มีการเติบโตที่ 14% ซึ่งสูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่ 12% และคาดการณ์ว่า EBITDA ในปี 2025 จะอยู่ที่ 35% ซึ่งโรงแรม AMANOR Chiang Mai ประสบความสำเร็จอย่างสูง ด้วยรายได้ 100-120 ล้านบาท และมี EBITDA สูงถึง 38% ซึ่งนำไปสู่การเป็นที่ปรึกษาด้านการลงทุนและส่งต่อการบริหารจัดการโรงแรมให้กับยูนิคอร์น ฮอสพิทาลิตี้

“จอห์น ลิม” บอกด้วยว่า Manor Group ได้จัดตั้งกองทุน Hacienda Hospitality Fund ซึ่งมีสัดส่วนการลงทุนหลากหลายรูปแบบ โดย 40% เป็น White-Label (ความเสี่ยงต่ำ, เจ้าของใช้ชื่อแบรนด์ตัวเอง), 30% เป็นการบริหารแบบ AMANOR (สร้างแบรนด์ใหม่), 20% เป็น Brown Field (ปรับแต่งตึกเก่า) และ 10% เป็น Green Field (ที่ดินและอาคารรีโนเวตใหม่ทั้งหมด, มีความเสี่ยงสูง)

ในส่วนของ White-Label ปัจจุบันมี 4 แห่งในกรุงเทพฯ ได้แก่ Floral Court Hotel & Residence, Zazz Urban Bangkok, Lilit Banglumphu และ Hotel 433 สุขุมวิท ซอย 10

ปรับสาขาเชียงใหม่สู่ รร.หรู, ผนึก “ยูนิคอร์น ฮอสพิทาลิตี้”, เปิดเพิ่มสิงคโปร์-ซัปโปโรปี 2028, โมเดลลงทุนหลากหลาย, ตั้งเป้าขยายอีก 10 แห่งใน 5 ปี, ชูลักเซอรี่-จุดขายชัดเจน

Manor Group

ตั้งเป้าขยายอีก 10 แห่งใน 5 ปี

สำหรับแผนการขยายงานเพื่อสร้างการเติบโตนั้น “จอห์น ลิม” บอกว่าบริษัทมีแผนที่จะขยายแบรนด์อีก 10 แห่งภายใน 5 ปีข้างหน้า โดย 3-4 แห่งจะอยู่ในทำเลเชิงยุทธศาสตร์ของประเทศไทย เช่น กรุงเทพฯ (สุขุมวิท), เชียงใหม่ (นิมมานเหมินท์), ขนอม (นครศรีธรรมราช), ระยอง หรือกาญจนบุรี

ส่วนอีก 3-4 แห่งจะอยู่ในญี่ปุ่น เช่น เกียวโต, โตเกียว, โอซากา และซัปโปโร ซึ่งเลือกซัปโปโรเนื่องจากต้นทุนที่ถูกกว่าและมีศักยภาพในการเติบโตที่ดี และอีก 2 แห่งจะอยู่ในเวียดนามและประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ชูลักเซอรี่-จุดขายชัดเจน

ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารแมเนอร์ กรุ๊ป ยังบอกย้ำด้วยว่า AMANOR ยึดหลักการทำงาน 5P ประกอบด้วย Purpose, Perception, Personality, Position, Promotion ซึ่งผสมผสานการออกแบบอันร่วมสมัย บริการแบบใส่ใจ และความเชื่อมโยงกับท้องถิ่น โดยเน้นกลุ่มลูกค้าไลฟ์สไตล์ระดับหรูจากตลาดสหรัฐ จีน เกาหลี ไต้หวัน สิงคโปร์ และมาเลเซีย

ปรับสาขาเชียงใหม่สู่ รร.หรู, ผนึก “ยูนิคอร์น ฮอสพิทาลิตี้”, เปิดเพิ่มสิงคโปร์-ซัปโปโรปี 2028, โมเดลลงทุนหลากหลาย, ตั้งเป้าขยายอีก 10 แห่งใน 5 ปี, ชูลักเซอรี่-จุดขายชัดเจน

Manor Group

พร้อมระบุอีกว่า โรงแรม AMANOR เชียงใหม่ มีอัตราการเข้าพักในช่วง Low Season อยู่ที่ 62% ซึ่งถือว่าน่าพอใจ ส่วนช่วง High Season จะอยู่ที่ 85% โดยกลุ่มตลาดเป้าหมายหลักของโรงแรมแห่งนี้คือ อเมริกาและจีน

นี่คือสิ่งที่ Manor Group มุ่งมั่นที่จะสร้างโรงแรมบูทีคระดับหรูที่มอบประสบการณ์อันเป็นเอกลักษณ์และเป็นเลิศ พร้อมกับการขยายเครือข่ายไปทั่วเอเชีย ด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่