Beyond Crisis 2025 ทัศนะและมุมมองในวิกฤต

ภาพประกอบข่าว
เศรษฐกิจไม่วิกฤตแต่เสี่ยงสูง
ผู้ส่งออกต้องรักษาตลาดเดิมให้ได้

ภาพประกอบข่าว
สถานการณ์เศรษฐกิจประเทศไทยในตอนนี้ ยังไม่เรียกว่า วิกฤต แต่ถือว่าอยู่ในภาวะที่มีความสุ่มเสี่ยงสูง ซึ่งมาจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ หากประเมินตั้งแต่หลังการแพร่ระบาดโควิด-19 เศรษฐกิจไทยพยายามเร่งฟื้นตัวมาอย่างต่อเนื่อง แต่จีดีพีก็ยังขยายตัวต่ำเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน หรือประเทศอื่นในอาเซียน ซึ่งเกิดจากโครงสร้างภายใน ที่สำคัญที่สุด คือ ปัญหาเสถียรภาพทางการเมือง ทำให้เกิดความไม่มั่นใจ ส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนในหลายภาคส่วน แม้กระทั่งภาคตลาดทุน ตลาดหุ้น ก็ได้รับผลกระทบ ตามด้วยผลกระทบจากแผ่นดินไหว การถล่มของตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ก็ยิ่งทำให้นักลงทุนขาดความมั่นใจ
เครื่องยนต์หลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 4 ด้านได้รับผลกระทบหมด ไม่ว่าจะเป็นการส่งออก การใช้จ่ายในประเทศ การใช้จ่ายงบประมาณ และภาคการท่องเที่ยว ซึ่งงบประมาณอยู่ในภาวะขาดดุล การใช้จ่ายเงินไม่คล่องตัว ขณะที่การใช้จ่ายในประเทศก็ชะลอตัว กำลังซื้อซบเซา ต้นทุนสินค้าสูงขึ้น ไม่สอดคล้องกับรายได้ประชาชนที่ยังไม่เพิ่ม
ในส่วนของภาคการท่องเที่ยว พบว่าพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวก็ปรับเปลี่ยนไปตามผลกระทบจากเศรษฐกิจ การจับจ่ายใช้สอยไม่มากอย่างที่เคย หันมานิยมใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น อีกทั้งหลายประเทศก็ให้ความสำคัญ แม้แต่สหรัฐและจีน ก็ส่งเสริมการท่องเที่ยว ทำให้มีการแข่งขันสูง ขณะที่นักท่องเที่ยวจากจีนก็เริ่มมาไทยลดลง อันเป็นผลกระทบจากข่าวความไม่มั่นใจในความปลอดภัย ดังนั้น สิ่งสำคัญที่ประเทศไทยจะต้องเร่งปรับปรุงแก้ไข ก็คือ การสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว ในเรื่องความปลอดภัย และแก้ปัญหาการเอาเปรียบนักท่องเที่ยว

ภาพประกอบข่าว
ส่วนผลกระทบจากการขึ้นกำแพงภาษีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐนั้น เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์การค้า ไม่มีใครคาดคิด เพราะเป็นมาตรการที่ไม่ได้ยึดกฎเกณฑ์ข้อตกลงใด ๆ ผิดกฎระเบียบการค้าโลก ซึ่งส่งผลกระทบต่อทั่วโลก ทุกประเทศได้รับผลกระทบเหมือนกัน ทำให้การค้าโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง ซึ่งผลกระทบจะรุนแรงแค่ไหน ต้องรอดูผลการเจรจาของทีม ไทยแลนด์
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผู้ส่งออกทำได้ในขณะนี้ คือ การรักษาตลาดเดิมเอาไว้ให้ได้ อย่าประมาท ศึกษาข้อมูลและเตรียมรับมือตลอดเวลา ว่าหากเกิดปัจจัยเสี่ยงในแต่ละระดับ จำเป็นจะต้องตั้งรับอย่างไร รวมไปถึงการกลับมามองดูตัวเอง โดยเฉพาะสินค้าที่ส่งออกไปในตลาดสหรัฐ สามารถที่จะยกระดับเพื่อที่จะขยายไปในตลาดอื่นทดแทนตลาดสหรัฐได้หรือไม่ และการกลับมาดูต้นทุนการผลิต ลดค่าใช้จ่ายให้ได้มากที่สุดและหาต้นทุนที่ถูกเพื่อที่จะแข่งขันกับคู่แข่งให้ได้ อะไรที่ไม่จำเป็นก็ควรทบทวนเพื่อไม่ให้ต้นทุนเพิ่ม รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้

ภาพประกอบข่าว
ทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งที่ผู้ผลิตผู้ส่งออกจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ อีกทั้งภาครัฐบาลเองก็จำเป็นจะต้องดูแลและช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยเพื่อให้แข่งขันในตลาดโลกได้
‘ประชาชาติธุรกิจ สื่อที่ก้าวนำ’
ประชาชาติธุรกิจ เป็นหนังสือพิมพ์ประจำออฟฟิศที่ผมอ่านสม่ำเสมอ โดดเด่นด้วยการนำเสนอเนื้อหาเจาะลึกและวิเคราะห์เศรษฐกิจอย่างรอบด้าน สมกับสโลแกน “เตือนคุณล่วงหน้า ทุกคำ ทุกข่าว”
สะท้อนความเป็นผู้นำด้านข้อมูลข่าวสารที่มีคุณค่า
สัมผัสได้ถึง Passion อันแรงกล้าของทีมงานที่ทุ่มเทผลิตคอนเทนต์คุณภาพหลากหลายรูปแบบ ความเป็นมืออาชีพและความมุ่งมั่นของผู้บริหารและทีมงานสะท้อนมาตรฐานการทำงานระดับสูง
ชื่นชมวิสัยทัศน์ของประชาชาติธุรกิจที่มองการณ์ไกลและปรับตัวล่วงหน้าก่อนความเปลี่ยนแปลงในวงการสื่อ ขณะที่สื่ออื่นถูกดิสรัปต์และเผชิญความท้าทาย ประชาชาติธุรกิจกลับแสดงความเป็นผู้นำที่ก้าวหน้า พัฒนาจุดแข็งด้านการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก นำเสนอในรูปแบบกระชับผ่านหลากหลายรูปแบบ (ข่าว บทความ วิดีโอ) โดยเฉพาะเวทีสัมมนาระดับประเทศที่ไม่อาจพลาดแม้แต่ครั้งเดียว
ผมมั่นใจว่าประชาชาติธุรกิจจะยังคงเป็นผู้นำในการนำเสนอข่าวและบทวิเคราะห์คุณภาพ เป็นแหล่งความรู้ที่เชื่อถือได้ และก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงแข็งแกร่งตลอดไป
AWC ลงทุนรับโอกาสระยะยาว
ย้ำ ‘ท่องเที่ยว’ คือจุดแข็งประเทศไทย
แม้เศรษฐกิจไทยยังอยู่ในภาวะเผชิญกับความท้าทายที่สูงมาก แต่ในปี 2567 ที่ผ่านมา บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC สามารถสร้างการเติบโตอย่างโดดเด่น มีรายได้รวมถึง 21,011 ล้านบาท เติบโต 10.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
และทำสถิติใหม่ 5 นิวไฮ (New high) สูงสุดใน 5 ปี นับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีกำไรสุทธิ 5,850 ล้านบาท กำไรจากการดำเนินงาน 11,965 ล้านบาท รายได้เฉลี่ย (ADR) 5,873 บาทต่อคืน รายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก 4,200 บาทต่อคืน และมีอัตราผลตอบแทน กำไรจากการดำเนินงานต่อสินทรัพย์ถาวร (EBITDA Yield) 10.1%
สำหรับปี 2568 นี้ “วัลลภา ไตรโสรัส” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทยขณะนี้หลาย ๆ เซ็กเตอร์อยู่ในภาวะของการปรับตัว (adjust) ค่อนข้างมาก แต่สำหรับภาคการท่องเที่ยวนั้น เรายังเห็นลูกค้ากลุ่มคุณภาพระดับ High-to-Luxury ซึ่งเป็นทาร์เก็ตของ AWC ยังมีกำลังในการเดินทางท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม Sentiment สำหรับบุ๊กกิ้งของกลุ่มประชุม สัมมนา ที่มีลังเลหรือชะลอ และยังไม่คอนเฟิร์มการเดินทางบ้าง ซึ่งโจทย์ของเราก็ต้องพยายามบูสต์ให้โมเมนตัมของนักเดินทางกลุ่มนี้กลับมาให้ได้ ส่วนกลุ่มที่เป็น Quality Demand หรือกลุ่มที่ต้องการสินค้าและบริการที่มีคุณภาพสูงนั้นยังดีอยู่ และยังเห็นตัวเลขการเติบโตที่สูงกว่าปีที่แล้ว
“ไตรมาสแรกที่ผ่านมาตัวเลขรวมของเราค่อนข้างดี สามารถสร้างการเติบโตอย่างโดดเด่น รายได้เพิ่มขึ้น 13.6% กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 23% กำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 15.3% และ มี EBITDA Yield อยู่ที่ 10.0% เพิ่มขึ้น 13.6% และไตรมาส 2 ช่วงสงกรานต์ก็ยังดีเท่ากับปีที่แล้ว แต่ก็ต้องรอดูโมเมนต์อีกสักระยะหนึ่ง”
โดยโจทย์สำคัญขณะนี้คือ เป็นเรื่องของการหาวิธีเชิญชวนนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพเข้ามาเพิ่มขึ้นผ่านเน็ตเวิร์กระดับเวิลด์ไวด์ของเรา โดยเฉพาะตลาดนักท่องเที่ยวระยะไกลที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง
สำหรับ AWC นั้น “วัลลภา” มองว่า บริษัทยังมองเห็นโอกาสและเดินหน้าลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ต่อเนื่องอยู่หลายโครงการ โดยโฟกัสที่การเป็น “เดสติเนชั่น” หรือ “แลนด์มาร์ก” เพื่อเพิ่มพลังในการดึงดูดนักท่องเที่ยว เช่น โครงการสวนสนุกจูราสสิค เวิลด์ (Jurassic World) ที่จะเปิดให้บริการที่เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ก็เริ่มเพิ่มยอดบุ๊กกิ้งห้องพักให้กับโรงแรมในกลุ่มแล้ว
หรือการเปิดโรงแรม มีเลีย พัทยา โฮเต็ล เมื่อต้นปีที่ผ่านมาก็มีอัตราการจองที่สูงเกินเป้าหมาย ทำให้บริษัทเตรียมเปิดโรงแรม พัทยา แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา ในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งในเวลานี้ก็ยังเห็นสัญญาณที่ดี
นอกจากนี้ยังได้ร่วมลงนามข้อตกลงในการพัฒนาและบริหารโรงแรม โอกุระ รีสอร์ท เชียงใหม่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเชื่อมต่อกับโครงการ “ลานนาทีค เดสทิเนชั่น” และโรงแรม ดิโอกุระ เพรสทีจ สุขุมวิท กรุงเทพ โฮเทล และสปา ย่านทองหล่อ กรุงเทพฯ เพื่อนำเสนอบริการด้านสุขภาพองค์รวมและการเข้าพักแบบระยะยาวสไตล์ญี่ปุ่น เป็นต้น
ขณะที่ในตลาดเซ็กเตอร์ระดับกลางซึ่งมีฐานลูกค้าใหญ่เป็นตลาดนักท่องเที่ยวจีนนั้นอาจต้องรอเวลาในการฟื้นตัว และยังไม่สามารถขยับราคาขายได้ไปอีกสักระยะ
พร้อมย้ำว่า อยากให้ผู้ประกอบการมองการลงทุนระยะยาว และช่วยกันสร้างโครงการคุณภาพเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เพราะประเทศไทยยังมีจุดแข็งเรื่องการท่องเที่ยวที่สามารถแข่งขันได้
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่