Top 53+ ประเทศร่วม TTM+ 2025 คาดสร้างรายได้กว่า 4.2 พันล้าน

งาน Thailand Travel Mart Plus (TTM+) งานส่งเสริมการขายด้านการท่องเที่ยวแบบ Business to Business (B2B) ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ เป็นงานที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และหน่วยงานธุรกิจท่องเที่ยวได้ร่วมกันจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี

โดยปีนี้ TTM+ 2025 ททท.ได้เลือกจังหวัดเชียงใหม่เป็นสถานที่จัดงาน ระหว่างวันที่ 4-6 มิถุนายน 2568 ณ อุทยานราชพฤกษ์ เพื่อเป็นโอกาสและเวทีในการเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการท่องเที่ยวของไทยและต่างชาติ และนำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวที่หลากหลายควบคู่กับความงดงามของศิลปวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวล้านนา

เพื่อตอกย้ำความพร้อมของจังหวัด “เชียงใหม่” ในการเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตร อาทิ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด, เซ็นทรัลพัฒนา, คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล, สายการบินไทยไลอ้อนแอร์, เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ฯลฯ

Buyer จาก 53 ประเทศทั่วโลกร่วมงาน, ดึง “14 เมืองน่าเที่ยว” เข้าร่วม, ชูเรื่อง Sustainability, ขาย Soft Power, เงินสะพัดกว่า 4.2 พันล้านบาท

TTM

Buyer จาก 53 ประเทศทั่วโลกร่วมงาน

“จิระวดี คุณทรัพย์” รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง และแอฟริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้ข้อมูลว่า งานส่งเสริมการขาย Thailand Travel Mart Plus หรือ TTM+ 2025 ครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 22 และจัดที่เชียงใหม่เป็นครั้งที่ 3

โดย TTM+ เป็นเวทีสำคัญในการเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทยกับบริษัทนำเที่ยวจากต่างประเทศทั่วโลก ซึ่งจะหมุนเวียนไปจัดในจังหวัดต่าง ๆ ให้สอดรับกับโจทย์ที่เปลี่ยนไปในแต่ละปี แต่ยังนับว่าเป็นเวทีเจรจาธุรกิจทางการท่องเที่ยวสำคัญที่จะมากระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวไทย พร้อมเสริมภาพลักษณ์ สร้างความเชื่อมั่นในการเดินทางท่องเที่ยวประเทศไทย

รวมถึงเปิดโอกาสในการสร้างพันธมิตรรายใหม่ ๆ และสร้างเครือข่ายทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง นำไปสู่การเสนอขายแพ็กเกจท่องเที่ยวและสินค้าการท่องเที่ยวไทยสู่นักท่องเที่ยวทั่วโลก

Buyer จาก 53 ประเทศทั่วโลกร่วมงาน, ดึง “14 เมืองน่าเที่ยว” เข้าร่วม, ชูเรื่อง Sustainability, ขาย Soft Power, เงินสะพัดกว่า 4.2 พันล้านบาท

TTM

สำหรับปีนี้มีผู้ประกอบการท่องเที่ยวจากต่างประเทศ (Buyer) รวมทั้งหมด 406 ราย จาก 53 ประเทศทั่วโลก ทั้งในพื้นที่ตลาดท่องเที่ยวหลักและรองของไทย รวมถึงตลาดศักยภาพใหม่ ๆ จากประเทศที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง

“ปีนี้เรามีบายเออร์หน้าใหม่เข้ามาร่วมงานถึงประมาณ 30% ทั้งจากโซนยุโรปตะวันออก เยอรมนี ฝรั่งเศส อินเดีย อังกฤษ ฯลฯ ส่วนตลาดจีนมาร่วมงาน 97 ราย ลดลงจากปีก่อนเล็กน้อย แต่ก็ยังเป็นตลาดที่เข้ามาร่วมงานสูงสุดอันดับ 1 เหมือนเดิม ทำให้เป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่จะได้มีเน็ตเวิร์กและพันธมิตรที่หลากหลายขึ้น”

Buyer จาก 53 ประเทศทั่วโลกร่วมงาน, ดึง “14 เมืองน่าเที่ยว” เข้าร่วม, ชูเรื่อง Sustainability, ขาย Soft Power, เงินสะพัดกว่า 4.2 พันล้านบาท

กราฟิก TTM+

Buyer จาก 53 ประเทศทั่วโลกร่วมงาน, ดึง “14 เมืองน่าเที่ยว” เข้าร่วม, ชูเรื่อง Sustainability, ขาย Soft Power, เงินสะพัดกว่า 4.2 พันล้านบาท

กราฟิก TTM+1

ดึง “14 เมืองน่าเที่ยว” เข้าร่วม

ส่วนผู้ประกอบการไทยในฐานะผู้ขาย (Seller) จำนวนประมาณ 450 รายจากทั่วประเทศ ในจำนวนนี้เป็นผู้ประกอบการจาก 14 จังหวัดเมืองน่าเที่ยวจำนวน 30 ราย ถือเป็นการเพิ่มศักยภาพ ยกระดับมาตรฐาน พัฒนาการตลาดและสร้างเครือข่ายทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการท้องถิ่นของไทยในระดับสากล

และเป็นช่องทางสำคัญอีกทางหนึ่งในการนำเสนอ “เมืองน่าเที่ยวไทย” สร้างจุดขายใหม่ ๆ สู่สายตานักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

Buyer จาก 53 ประเทศทั่วโลกร่วมงาน, ดึง “14 เมืองน่าเที่ยว” เข้าร่วม, ชูเรื่อง Sustainability, ขาย Soft Power, เงินสะพัดกว่า 4.2 พันล้านบาท

TTM

ชูเรื่อง Sustainability

“จิระวดี” บอกด้วยว่า ความพิเศษของงาน TTM+ 2025 ในปีนี้ คือ การให้ความสำคัญกับเรื่อง Sustainability ซึ่งสอดรับกับจังหวัดเชียงใหม่มุ่งเน้นในเรื่องของความยั่งยืนอยู่แล้ว โดยมีผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทย (Seller) รวม 450 รายนี้เป็นผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจแบบเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

โดยเฉพาะผู้ได้รับรางวัล Thailand Tourism Award, ผู้ประกอบการที่ได้มาตรฐาน STAR ของ ททท. ภายใต้เป้าหมายการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism Goals : STGs) และผู้ที่เข้าร่วมโครงการ CF Hotels (Carbon Free Hotels) ของ ททท. เข้าร่วมงานถึง 185 ราย

Buyer จาก 53 ประเทศทั่วโลกร่วมงาน, ดึง “14 เมืองน่าเที่ยว” เข้าร่วม, ชูเรื่อง Sustainability, ขาย Soft Power, เงินสะพัดกว่า 4.2 พันล้านบาท

TTM

นอกจากนี้ รูปแบบการจัดงานยังเน้นเรื่องของ Carbon Neutral Event โดยร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรในการจัดเก็บข้อมูลการปล่อยคาร์บอนฟุตพรินต์ที่เกิดขึ้นจากการจัดงาน TTM+ 2025 ในพื้นที่อุทยานราชพฤกษ์ และชดเชยคาร์บอนฟุตพรินต์ที่เกิดจากการจัดงานทั้งหมด

รวมถึงจัดให้มีการคัดแยกขยะภายในงาน เพื่อนำไปรีไซเคิลและกำจัดอย่างถูกวิธี ลดปัญหาเรื่องการปล่อยคาร์บอนฟุตพรินต์ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานมีส่วนร่วมในการใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสร้างคุณค่าทางด้านความยั่งยืนอีกด้วย

Buyer จาก 53 ประเทศทั่วโลกร่วมงาน, ดึง “14 เมืองน่าเที่ยว” เข้าร่วม, ชูเรื่อง Sustainability, ขาย Soft Power, เงินสะพัดกว่า 4.2 พันล้านบาท

pca_Cover_photo1 copy

ขาย Soft Power

ไม่เพียงเท่านี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมต่าง ๆ อีกมากมาย เช่น กิจกรรม Thailand Product Update นำเสนอข้อมูลสถานการณ์ท่องเที่ยวไทยและสินค้าบริการทางการท่องเที่ยวที่หลากหลาย, TTM+ Talk นำผู้ที่มีชื่อเสียงมาร่วมเสวนาภายใต้แนวคิด “The Soul of Thailand : 3F Essentials” มุ่งเน้นการนำเสนอ “เสน่ห์ไทย” สู่สายตาชาวโลก

กิจกรรมสาธิต Product Showcase ต่าง ๆ ภายใต้แนวคิด The Wisdom and Wellness Experience ผสานการดูแลสุขภาพกับ Thai Wisdom ภูมิปัญญาล้านนา โดยผู้ประกอบการที่มีศักยภาพในพื้นที่ภาคเหนือ รวมทั้งการนำเสนอโชว์เคสนวัตกรรมการท่องเที่ยว Travel Tech ด้วยการใช้เทคโนโลยี AI ในรูปแบบต่าง ๆ

Buyer จาก 53 ประเทศทั่วโลกร่วมงาน, ดึง “14 เมืองน่าเที่ยว” เข้าร่วม, ชูเรื่อง Sustainability, ขาย Soft Power, เงินสะพัดกว่า 4.2 พันล้านบาท

TTM

อีกหนึ่งกิจกรรมไฮไลต์ ได้แก่ กิจกรรมรายการนำเที่ยว Pre tour ซึ่งจะนำเสนอประสบการณ์ท่องเที่ยวไทยที่แตกต่างและน่าประทับใจ โดยเฉพาะการท่องเที่ยว Wellness และ Sustainability ในจังหวัดเชียงใหม่

และ Post Tour ที่นอกจากจะนำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวในภาคเหนือ ทั้งเชียงใหม่ ลำปาง แพร่ และน่านแล้ว ยังนำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงขยายไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ของไทย อาทิ เพชรบุรี ขอนแก่น สุราษฎร์ธานี ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อให้เกิดการกระจายการเดินทางไปยังพื้นที่อื่น ๆ

โดยเน้นการนำเสนออัตลักษณ์ท้องถิ่น Soft Power ไทยควบคู่ไปกับการสอดแทรกแนวคิดความยั่งยืน

Buyer จาก 53 ประเทศทั่วโลกร่วมงาน, ดึง “14 เมืองน่าเที่ยว” เข้าร่วม, ชูเรื่อง Sustainability, ขาย Soft Power, เงินสะพัดกว่า 4.2 พันล้านบาท

TTM

เงินสะพัดกว่า 4.2 พันล้านบาท

“จิระวดี” คาดว่าการจัดงาน TTM+ 2025 ครั้งนี้จะมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 1,000 คน ประกอบด้วย ผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยวจากต่างชาติ (Buyer) กว่า 400 ราย จาก 53 ประเทศทั่วโลก และผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทย (Seller) ประมาณ 450 หน่วยงานจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศไทย และสื่อมวลชนจากในและต่างประเทศ (Media) กว่า 100 ราย

รวมถึงองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งชาติ (NTO) จากกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (GMS) ได้แก่ ราชอาณาจักรกัมพูชา เมียนมา ราชอาณาจักรภูฏาน และประเทศในภูมิภาคเอเชียใต้

โดยคาดว่าการจัดงานในครั้งนี้จะก่อให้เกิดการเจรจาธุรกิจไม่ต่ำกว่า 13,000 นัดหมาย และสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวราว 4,296 ล้านบาท

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่