ททท.มุ่งกลยุทธ์ แอร์ไลน์โฟกัส ปั๊มการเติบโต-ดึงทัวริสต์คุณภาพ

ภาพประกอบข่าว
หลังจากภาคการท่องเที่ยวของไทย โดยกระทรวงการท่องเที่ยวฯ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ดำเนินโครงการ “สวัสดี หนีห่าว” (Sawasdee Nihao) พร้อมทั้งกิจกรรมเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไทย-จีน ด้วยการนำผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวจากประเทศจีนกว่า 300 บริษัท รวมราว 400 ราย มาเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการไทย และสำรวจเส้นทางท่องเที่ยวของไทย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นของตลาดจีนเสร็จสิ้นไป

ภาพประกอบข่าว
ล่าสุด ททท.ได้จัดงาน Thailand Travel Mart Plus (TTM+) งานส่งเสริมการขายด้านการท่องเที่ยวแบบ B2B ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ที่จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 4-6 มิถุนายน 2568 โดยมีผู้ประกอบการท่องเที่ยวจากต่างประเทศ 406 ราย จาก 53 ประเทศทั่วโลกเข้ามาเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการไทยกว่า 450 ราย

ภาพประกอบข่าว
เที่ยวไทยขยายสู่ตลาดใหม่

ภาพประกอบข่าว
“ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้ข้อมูลว่า งาน TTM+ ปีนี้มีผู้ประกอบการหน้าใหม่เข้ามาร่วมงานถึง 35.2% ถือว่าเยอะมาก เช่น โคลอมเบีย เคนยา เปรู กาตาร์ อาเซอร์ไบจาน เอสโตเนีย คาซัคสถาน โครเอเชีย สโลวีเนีย นอร์ทมาซิโดเนีย เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีผู้ประกอบการรายใหม่ในตลาดที่เคยเข้ามาอยู่แล้วเข้ามาเพิ่ม อาทิ อาร์เจนตินา บราซิล อินเดีย เวียดนาม มาเลเซีย อิสราเอล อิตาลี สเปน เป็นต้น จึงเชื่อว่าตลาดการท่องเที่ยวของไทยขยายไปในตลาดใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น และมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้น
มุ่งกลยุทธ์ “แอร์ไลน์โฟกัส”

ภาพประกอบข่าว
“จิระวดี คุณทรัพย์” รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ททท. เสริมว่า สำหรับกลยุทธ์ที่ ททท.ให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในตลาดบินระยะใกล้ (Short Haul Market) และตลาดบินระยะไกล (Long Haul Market) คือ การทำงานร่วมกับสายการบิน หรือแอร์ไลน์โฟกัส
โดยเจรจาสายการบินเพื่อเพิ่มเที่ยวบินเข้าสู่ประเทศ ทั้งในรูปแบบที่เป็นเที่ยวบินประจำและชาร์เตอร์ไฟลต์ (เช่าเหมาลำ) ที่ให้บริการในช่วงที่เป็นฤดูกาลท่องเที่ยวของแต่ละตลาด เพื่อให้สอดรับกับความต้องการการเดินทางในแต่ละช่วงเวลา

ภาพประกอบข่าว
อย่างตลาดระยะไกลมาก (Super Long Haul) เช่น สหรัฐอเมริกา นอกจากจะมี “แอร์แคนาดา” ให้บริการเส้นทางแวนคูเวอร์-กรุงเทพฯแล้ว ขณะนี้สายการบิน “ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส” ก็มีแผนเปิดเส้นทางลอสแองเจลิส-กรุงเทพฯ (แวะฮ่องกง) ในเดือนตุลาคมนี้ เป็นต้น
และปัจจุบันพบว่าอัตราการจองการเดินทางล่วงหน้าของสายการบินในตลาด Super Long Haul ดีมาก ตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ยาวไปถึงปี 2569 โรงแรมระดับ 4-5 ดาวในพื้นที่ภาคใต้จำนวนมากบุ๊กกิ้งเต็มสต๊อกแล้ว
“เราเน้นกลุ่มระยะไกลมากขึ้น เนื่องจากว่าต้องการเพิ่มสัดส่วนของรายได้”
บูมเชียงใหม่ฮับเที่ยวภาคเหนือ
นอกจากนี้ ยังพบว่าตลาดที่มีการเติบโตอย่างชัดเจน คือ “มิดเดิลอีสต์” ซึ่งในโอกาสที่ประเทศไทยจัดงาน TTM+ 2025 ที่เชียงใหม่ปีนี้ ททท.มีเป้าหมายสร้างการรับรู้สินค้าท่องเที่ยวของเชียงใหม่ และในภาคเหนือสำหรับตลาดมิดเดิลอีสต์เพิ่มขึ้น
เช่นเดียวกับ “รัสเซีย” ที่เดิมรับรู้แค่เรื่องของ Sea Sun Sand ก็จะมีการสื่อสารให้เขารู้จักการท่องเที่ยวในภาคเหนือเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้มีการเจรจากันว่าอาจจะมีการทำชาร์เตอร์ไฟลต์จากรัสเซียตรงเข้าเชียงใหม่ ในช่วงที่เป็นมรสุมของภาคใต้
“ตลาดอินเดียตอนนี้มีอัตราการเติบโตสูงมาก โดย ททท.กำลังเน้นกลุ่มผู้หญิง เพราะเชียงใหม่ถูกประกาศให้เป็นเดสติเนชั่นสำหรับ Solo Woman Traveler ซึ่งน่าจะทำให้ตลาดอินเดียมีความเชื่อมั่นมากขึ้น จากนั้นเราจะใช้เชียงใหม่เป็นเมืองต้นแบบสำหรับตลาดผู้หญิงต่อไป”
ขณะที่ตลาดอื่น ๆ ก็ยังคงรักษาให้เติบโตต่อเนื่อง เช่น จีน รวมถึงตลาดที่พูดภาษาจีนและอาเซียน ซึ่ง ททท.จะเร่งสร้างการรับรู้ในตัวสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวในภาคเหนือให้เป็นที่รู้จักของตลาดอาเซียนมากขึ้น เช่น มาเลเซีย ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ ปัจจุบันได้คุยกับสายการบินเพื่อให้บริการเที่ยวบินบินตรงสู่เชียงใหม่แล้ว
“เชียงใหม่สามารถเป็นฮับของธุรกิจการบิน วันนี้มีเที่ยวบินบินตรงจากหลายประเทศ ทั้งตลาดการบินระยะใกล้และการบินระยะไกล และสามารถเชื่อมโยงกับจังหวัดอื่น ๆ ที่มีศักยภาพ”
ปั้น Million Market เพิ่ม
“ฐาปนีย์” ระบุด้วยว่า เชื่อว่าปีนี้ท่องเที่ยวไทยจะมีหลายตลาดที่มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะตลาด Long Haul และมีตลาดสามารถเพิ่มนักท่องเที่ยวได้เกิน 1 ล้านคน (Million Market) อีกหลายตลาด จากปัจจุบันที่มีอยู่ 3 ตลาด คือ สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร (UK) และรัสเซีย ปีนี้ ททท.ตั้งเป้ามีตลาด Million Market อีกอย่างน้อย 2 ตลาด คือ เยอรมนีและฝรั่งเศส
“ตลาดที่เป็นบิ๊ก 5 ของ Long Haul ไม่ว่าจะเป็นรัสเซีย ยูเครน ฝรั่งเศส เยอรมนี ล้วนมีอัตราการเติบโตอย่างโดดเด่นมากในปีนี้ ทางฝั่งภูมิภาคอเมริกาและอเมริกาใต้ ก็มีประเทศใหม่เดินทางเข้ามามากขึ้น เช่น โคลอมเบีย แอฟริกา ซึ่งเป็นประเทศน้องใหม่ก็มีสัญญาณการเติบโตที่ดี อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่เป็น Super Long Haul ทำให้มีข้อจำกัดเรื่องของเที่ยวบิน เราก็จะพยายามทำงานร่วมกับสายการบินอย่างใกล้ชิด”
ขณะที่ตลาดบินระยะใกล้นั้นมีตลาด Million Market แล้วจำนวนมาก แต่ ททท.จะพยายามทำให้ทุกตลาดมีการเติบโตที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเกาหลี ญี่ปุ่น สปป.ลาว ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ฯลฯ รวมถึงอินเดีย
ตลาดเปลี่ยนผ่านสู่ “คุณภาพ”
“จิระวดี” บอกเสริมอีกว่า หลาย ๆ ปรากฏการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในช่วงปี 2 ปีนี้ โดยเฉพาะการย่อตัวของตลาดจีนท่ามกลางหลาย ๆ ตลาด โดยเฉพาะตลาดระยะไกล Super Long Haul สะท้อนว่าตลาดนักท่องเที่ยวในภาพรวมของประเทศไทยกำลังเปลี่ยนผ่าน (Transition) สู่ “คุณภาพ” ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ
และแนวโน้มนี้ก็เป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาล และเป้าหมายการทำงานของ ททท. ที่มุ่งเน้นด้าน “รายได้” มากกว่า “ปริมาณ”
โดยในปีนี้และปีหน้า ททท.จะเน้นขายสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวในกลุ่มมูลค่าสูงเพิ่มขึ้น ทั้งอาหาร แฟชั่น เวลเนส ซึ่งเป็นจุดขายและจุดแข็งที่ประเทศคู่แข่งไม่มี ซึ่งสอดรับกับดีมานด์การท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวในฝั่งตะวันตก อย่างยุโรป อเมริกา ที่ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หรือ Wellness เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
จากแนวโน้มที่เกิดขึ้น เชื่อว่าเราจะเห็นการเปลี่ยนผ่านของโครงสร้างนักท่องเที่ยวปรับตัวสู่ตลาดคุณภาพมากขึ้น และมีสัดส่วนรายได้จากตลาดการบินระยะไกลเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แน่นอน
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่